“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” ฉะยับ…สมอง “ผู้นำหน้าแหก” หมอไม่รับเย็บ ปัญหาฝุ่นพิษ ทำไม่ได้เหมือนที่โม้ แถม “เกาไม่ถูกที่คัน” ลดฝุ่นไม่ได้ เลยแจกมุ้ง-ขึ้นรถฟรี ส่งผลคนเบียดขึ้นรถไฟฟ้า แต่เป็นชาวต่างชาติ-คนใช้ชาวต่างชาติ ขอ “นายจ้าง” หยุดงาน นั่งรถเที่ยวฟรี สบายใจไป
เมื่อวันที่ 27 ม.ค.68 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “เกาไม่ถูกที่คัน” มีเนื้อหาว่า “ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม ทำไม่ได้เหมือนที่โม้ ผู้นำหน้าแหก หมอไม่รับเย็บ จากฝุ่นกลายเป็นหมอก ลดฝุ่นไม่ได้ แจกมุ้ง ขึ้นรถฟรี
ผลการให้ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี คนเบียดกันเต็มบนรถไฟฟ้า แต่เป็นชาวต่างชาตินักท่องเที่ยว แถมคนใช้ชาวต่างชาติที่ทำงานบ้าน ขอเจ้านายหยุดงานไปนั่งรถเที่ยวฟรี สนุกสนานสำราญใจกัน คนไทยก็เอารถไปทำงานต่อไป เฮ้อ สมอง”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเช้าวันนี้ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ค่าฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มลดลง โดยพบว่า 12 เขต ค่าฝุ่นลงไปอยู่ระดับสีเหลือง โดยข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ณ เวลา 07.00 น.
กรุงเทพฯ มีค่าฝุ่น PM 2.5 เฉลี่ยอยู่ที่ 41 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ระดับสีส้ม) หรือคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่ภาพรวมส่วนใหญ่ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม มีเพียง 12 เขต ที่ค่าฝุ่นลดลงไปอยู่ระดับสีเหลือง หรือคุณภาพอากาศระดับปานกลาง ได้แก่ บางแค, บางพลัด, บางคอแหลม, ยานนาวา, สัมพันธวงศ์, จตุจักร, ดินแดง, ห้วยขวาง, บางกะปิ, วัฒนา, ปทุมวัน และราชเทวี
สำหรับ 12 อันดับ #ค่าฝุ่นPM25 สูงสุดในกรุงเทพฯมีดังนี้
🔺1. #หนองจอก 51.8 มคก./ลบ.ม.
🔸2. #บึงกุ่ม 51 มคก./ลบ.ม.
🔸3. #หลักสี่ 50.3 มคก./ลบ.ม.
🔸4. #วังทองหลาง 49.5 มคก./ลบ.ม.
🔸5. #บางนา 49.5 มคก./ลบ.ม.
🔸6. #สาทร 48.8 มคก./ลบ.ม.
🔸7. #มีนบุรี 48.1 มคก./ลบ.ม.
🔸8. #สายไหม 47.2 มคก./ลบ.ม.
🔸9. #คลองสามวา 46.2 มคก./ลบ.ม.
🔸10. #คันนายาว 45.9 มคก./ลบ.ม.
🔸11. #บางขุนเทียน 45.5 มคก./ลบ.ม.
🔸12. #ลาดกระบัง 44.2 มคก./ลบ.ม.
ทั้งนี้ แนวโน้มฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีแนวโน้มลดลง ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ข้อแนะนำสุขภาพ
🟠 คุณภาพอากาศระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรจำกัดระยะเวลาทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายที่ใช้แรงมากกลางแจ้ง ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง หากต้องออกกลางแจ้งให้สวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้ง
🟡 คุณภาพอากาศระดับสีเหลือง ระดับปานกลาง ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายที่ใช้แรงมากกลางแจ้ง หากต้องออกกลางแจ้งให้สวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้ง
