‘อนุทิน’ ยัน ‘ทักษิณ’ ยังไม่สิ้นมนต์ขลัง ยกเป็นจอมยุทธ์ ใครดูแคลนมีแต่หายนะ บอก เลือกตั้งท้องถิ่นจบแล้ว ขอมองไปข้างหน้า ยัน ‘ศรีสะเกษ-เชียงราย’ ชนะเพราะอยู่พื้นที่มานาน ลั่น กระสุนไม่ใช่คำตอบปัจจัยชี้ขาดอยู่ที่ทำงาน
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินการเลือกตั้ง นายก อบจ.จะมีผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตหรือไม่ ว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ตอนนี้ทุกอย่างจบแล้ว ต้องมองไปข้างหน้า แข่งขันกันเสร็จ ก็กลับมาทำงานทำประโยชน์ให้บ้านเมืองด้วยกันต่อไป
เมื่อถามว่า เครือข่าย ‘สีน้ำเงิน’ มีเคล็ดลับอย่างไร นายอนุทินกล่าว อย่าแยกสีแยกฝ่าย เวลาเลือกตั้งก็เลือกตั้งกันไป เดี๋ยวปี 2570 ก็มาแข่งกันใหม่ ผลออกมาเป็นอย่างไร ตัวเลขเป็นอย่างไร จะรวมกันอย่างไร ใครเป็นรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้าน ก็มีรูปแบบของมันอยู่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลาทุก 2 ปี 3 ปี 4 ปี ซึ่งทุกพรรคการเมืองต้องมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา
เมื่อถามว่า เวลาเลือกตั้งทุกคนประกาศเป็นอิสระหมด แต่พอประกาศผลการเลือกตั้งก็มีการเมืองเข้ามา เช่น ที่จังหวัดเชียงราย นายอนุทินกล่าวว่า ทุกคนก็มีความอิสระ ในส่วนของจังหวัดเชียงราย มาสวัสดีปีใหม่ ในวันตรุษจีน เขามาทุกปี เพราะเป็นพี่สาวของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถามว่าเสียหายตรงไหน แม้แต่ว่าที่นายก อบจ.ศรีสะเกษ ที่เป็นบิดาของนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย ชนะการเลือกตั้ง ตนก็ดีใจ ญาติของคนใกล้ชิดที่ไม่ใช่แค่สองคนนี้ หากชนะตนก็ดีใจ รวมถึงดีใจกับนายก อบจ. ทั่วประเทศ
เมื่อถามว่า ช่วงการหาเสียงการเมืองท้องถิ่น มีการปราศรัยเสียดสีกันรุนแรง มองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า พอเห็นไมค์ก็องค์ลง เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่เห็นประชาชนมาฟังเป็น 10,000 คน ขนาดตนผู้ติดอ่างเวลาหาเสียง ยังแหลงใต้ได้เลย อู้คำเมืองก็ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิจารณ์หลังผลการเลือกตั้งออกมา ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “สิ้นมนต์ขลัง” แล้ว นายอนุทินกล่าวว่า
“ไม่มีหรอกสิ้นมนต์ขลัง จอมยุทธ์ก็คือจอมยุทธ์ ใครลองไปว่าท่านสิ้นมนต์ขลังดู คงจะประสบความหายนะอย่างยิ่ง อย่างที่ไม่เคยคาดการณ์หรือประมาณอะไรได้ ไม่มีหรอกครับ ยิ่งน่ากลัว”นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า จากวลี “ไล่หนูตีงูเห่า” จนถึง “การเมืองท้องถิ่นอย่าให้คนนอกเข้ามายุ่ง” เรื่องนี้ได้คุยหรือเคลียร์กันหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าไม่ต้องเคลียร์อะไร เป็นเรื่องปกติธรรมดา ถ้าจะโกรธก็ตั้งแต่สมัยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว ที่ประกาศ ‘ไล่หนูตีงูเห่า’ พอถึงเวลาก็ร่วมรัฐบาลกัน ท่านก็เชิญไปกินช็อคมิ้นต์ ที่ตึกโอเอไอ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเก่า ทุกอย่างอย่าไปคิดมาก ไม่เช่นนั้นจะทำอะไรไม่ได้
“ถึงเวลาหาเสียงเลือกตั้งก็ใส่กันไป เป็นบทบาทลีลาในการหาเสียง ทำให้ตัวเองประสบชัยชนะ”นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า ที่เชียงรายและศรีสะเกษ ได้บอกหรือไม่ว่าทำอย่างไรถึงชนะการเลือกตั้ง นายอนุทินกล่าวว่า เขาทำงานในพื้นที่มาตั้งกี่ปี เป็นอดีตนายกอบจ.ศรีสะเกษ 4 สมัย 24 ปี ตั้งแต่นางสาวไตรศุลียังกินข้าวไม่เป็น ส่วนที่เชียงราย ก็เป็นอดีตนายกอบจ.สองสมัย
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าปัจจัยใน การชี้ขาดการเลือกตั้งครั้งนี้มาจากกระสุน นายอนุทินกล่าวว่า ถ้ากระสุนเป็นปัจจัยชี้ขาด ตนคิดว่าทุกคนจะชนะหมด พร้อมยกตัวอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ว่ามีฐานะทางบ้านเป็นอย่างไร ตนคูณสิบ คูณยี่สิบยังไม่ได้ครึ่งของนายธนาธรเลย
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ตนคิดว่ากระแสและความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่น เป็นเรื่องสำคัญที่สุด อยู่ที่ใครทำงาน พร้อมถามว่า จังหวัดบุรีรัมย์กระสุนหรือไม่ ทำไมคะแนนห่างกัน อย่าดูถูกประชาชน เพราะอยู่ที่การทำงาน
ระหว่างนั้น นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเดินมาถึงจุดให้สัมภาษณ์พอดี เพื่อเตรียมร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี นายอนุทินจึงกล่าวว่า “มท.3 อุทัยธานีกระสุนหรือไม่ อุทัยธานีกระสุนน่ากลัวกว่า … กระสุนจริง” ก่อนหัวเราะ และเดินเข้าไปร่วมประชุมครม.พร้อมนางสาวซาบีดา