‘พิพัฒน์’ ขอผู้ประกันตน มั่นใจ ‘สำนักงานประกันสังคม’ บริหารเงินเหมาะสม-โปร่งใส ชี้ มีหลักเกณฑ์การเดินทางอยู่แล้ว ระดับเจ้ากระทรวง ต้อง Frist class แจงทำ ‘ปฏิทิน’ ยังจำเป็น ยอด 400 ล้านบาท 8 ปี ไม่ใช่ปีเดียว เผย ใช้งบเพียง 3% จาก 10% เท่านั้น ขออภัยโทรสายด่วนติดยาก เหตุมี 300 คู่สาย ใครโทรฯ แล้วรับเลยถือว่าโชคดี จวก คนออกมาพูดเรื่องหยุมหยิบ มีเจตนาไม่ดี ท้า ตั้งกระทู้ถาม หรือมาหาที่กระทรวงได้ พร้อมชี้แจง
วันที่ 18 ก.พ.68 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการใช้งบประมาณของ ‘สำนักงานประกันสังคม’ ฟุ่มเฟือย ไปดูงานต่างประเทศ , จัดทำปฏิทิน 400 ล้านบาท โดยกล่าวว่า การไปดูงาน มีหลักปฏิบัติของแต่ละกระทรวงอยู่แล้ว ว่าผู้บริหารระดับไหน จะนั่งชั้นไหน ซึ่งตนคิดว่าเป็นเรื่องปฏิบัติกันตามปกติ หากเป็นเจ้ากระทรวงระดับรัฐมนตรีว่าการ และสำนักปลัดกระทรวง ก็จะเป็นที่นั่งระดับ Firast Classให้อยู่แล้ว หรือหากเป็นระดับปลัดกระทรวงและอธิบดี ชั้น Business อยู่แล้ว
“การจะเอาเรื่องหยุมหยิมพวกนี้ มาโจมตีผ่านสื่อ ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้เดือดร้อนหรือกังวล เพราะสามารถอธิบายได้”
ส่วนเรื่องบอร์ดประกันสังคมที่เดินทาง ก็ต้องดู ว่าบอร์ดในแต่ละบอร์ด มีระดับที่นั่งในคลาสไหน หลักปฎิบัติมีให้อยู่แล้ว ในส่วนที่มีการเดินทาง ไม่ใช่ว่ากรรมการในบอร์ดจะมีพรรคใดพรรคหนึ่ง เมื่ออยู่ในบอร์ด ก็มีเกือบทุกพรรค โดยเฉพาะที่อยู่ในกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรก็มีองค์ประกอบทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลรวมอยู่ด้วย แต่หากอยู่ในบอร์ดประกันสังคม ปัจจุบันมาจากการเลือกตั้ง เป็นฝ่ายนายจ้าง 7 คน ลูกจ้าง 7 คน และมีภาครัฐอีก 7 คน ซึ่งลูกจ้างหรือนายจ้างภายในสังกัด หรืออยู่ในกลุ่มไหน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะฉะนั้นไม่กังวลในเรื่องนี้
ส่วนที่ผู้ประกันตนเริ่มกังวลการบริหารงบประมาณของประกันสังคม ที่เป็นงบก้อนใหญ่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า ด้วยหลักเกณฑ์ของประกันสังคม สามารถหยิบเงินของประกันสังคมมาเพื่อการบริหารจัดการ เพื่อการประชาสัมพันธ์ได้ 10% แต่ขณะนี้ประกันสังคมใช้เพียง 3% คนที่ออกมาพูดต้องดูหลักเกณฑ์ด้วย ว่าเขาให้ไว้อย่างไร การที่ประกันสังคมนำมาใช้ 3% คิดว่าพยายามประหยัดงบประมาณให้กับผู้ประกันตนทั้ง 3 มาตรา 33 39 40
ส่วนการจัดทำปฏิทินกว่า 400 ล้านบาท นายพิพัฒน์ กล่าวว่า งบประมาณดังกล่าวเป็นการจัดทำปฏิทิน ระยะเวลา 8 ปี ไม่ใช่ปีเดียว ดังนั้นการพูดอะไรที่เป็นการเหมารวมและตีขลุม ขอให้มีจรรยาบรรณในการพูด การที่พูดจั่วหัวขึ้นมาว่า 400 กว่าล้านบาท เชื่อว่าผู้พูดมีเจตนาไม่ดี ส่วนตัวไม่เคยออกมาตอบโต้ แต่วันนี้ได้จังหวะมาประชุมครม.สัญจร ที่จังหวัดสงขลาซึ่งเป็นบ้านของตนเอง จึงถือโอกาส ขอพูดให้กับสื่อมวลชนและผู้ประกันตนทั้งประเทศ ได้ทราบว่า ประกันสังคมมีมาตรฐานในการใช้งบประมาณอย่างประหยัด
ส่วนกรณีเรื่องสายด่วนโทรไปไม่เคยมีคนรับนั้น นายพิพัฒน์ ย้อนถามว่า โทรฯ ไปกี่ครั้ง อาจจะติดสายอยู่ก็ได้ เพราะช่วงเวลาที่มีความเดือดร้อน ทุกคนก็พยายามโทรเข้าไป เมื่อไม่มีการรับสาย ก็คิดว่าไม่รับสาย แต่อาจจะเป็นสายซ้อน ซึ่งจะมีการแจ้งในสายอยู่แล้วว่าโปรดรอสักครู่ อย่าว่าแต่ประกันสังคมเลย ศูนย์ Call Center ที่เป็นศูนย์รวม ก็เป็นลักษณะเดียวกัน เพราะมีช่วงเวลาที่สายแน่นมาก อาจทำให้ไม่สามารถโทรศัพท์เข้าไปแล้วรับเลยได้ ถ้าโทรแล้วรับทันทีจะถือว่าเป็นจังหวะว่าง โดยทั่วไปจะมีผู้ประกันตนทั้งหมด 25 ล้านคน ในขณะที่ผู้ให้บริการสายด่วน 300 คู่สาย การโทรไปแล้วรับทันที ถือว่าโชคดีมากๆ บางครั้งต้องขออภัย
“ขอให้ผู้ประกันตนทั้ง 3 มาตราสบายใจได้ว่า ประกันสังคมทำทุกสิ่งทุกอย่างโปร่งใส ที่สำคัญบอร์ดไม่มีใครเลือกหรือสรรหามา แต่มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นคนออกมาให้ข่าว กรุณาทบทวนตัวเองว่า สิ่งที่พูดออกมามีข้อเท็จจริงอย่างไร และผมเองไม่มีปัญหา จะมาพบที่กระทรวงก็ได้ หรือจะทวงถามในสภา ก็พร้อมที่จะตอบ หรือจะใช้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ยินดีที่จะตอบคำถามทุกคำถาม เพราะมั่นใจ ว่ากระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคมของเรามีความโปร่งใส”
ทั้งนี้นายพิพัฒน์ มั่นใจว่า งบประมาณจัดทำปฏิทินปีละ 50 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่เหมาะสม เพราะเกษตรกร 12,000,000 คน อยู่ในพื้นที่ชุมชนชนบท การที่จะสื่อสารผ่านโซเชียล บางครั้งอาจจะไม่ได้ จึงต้องอำนวยความสะดวกในการประชาสัมพันธ์ทางปฏิทิน ดังนั้นการใช้ปฏิทิน ยังมีคุณค่าสำหรับคนบางกลุ่ม แต่สำหรับคนบางกลุ่ม อาจไม่มีความจำเป็น แต่บางกลุ่มมีความจำเป็น