“กมธ.กม.คุ้มครองแรงงาน” ถอนร่างกฎหมายเป็นครั้งที่ 2 หลังถูก “สส.ปชน.-พท.” ชี้เนื้อหาสาระทำเกินหลักการ หลังตัดคุ้มครองพนักงานจ้างเหมาหน่วยงานราชการ-วิสาหกิจ “วรศิษฎ์” แจงอยากให้กม.บังคับใช้เร็ว เกรงแรงงานรอไม่ไหว
วันที่ 19 ก.พ.2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่…) พ.ศ… ซึ่งมีนายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานกมธ. ในวาระสอง ต่อเนื่องจากการประชุมสภาฯ เมื่อ วันที่ 5 ก.พ. และเป็นกรณีการพิจารณาหลังจากที่กมธ. ได้ขอนำร่างพ.ร.บ.ออกจากวาระเพื่อไปแก้ไขปรับปรุง ในส่วนของมาตรา 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการพิจารณาต่อว่ากมธ.ที่สงวนความเห็น และสส.ที่เสนอคำแปรญัตติ ต่างคัดค้านการแก้ไขของกมธ. ซึ่งได้ตัดออกทั้งมาตรา เพราะกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อการคุ้มครองพนักงานจ้างเหมาของส่วนราชการ ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ รวมถึงหน่วยงานของรัฐ ซึ่งบรรยากาศการอภิปรายเป็นการถกเถียงกันอย่างเคร่งเครียด โดย สส.พรรคประชาชน ต่างอภิปรายไปในทิศทางเดียวกัน ว่าการตัดออกของกมธ. นั้นทำให้พนักงานจ้างเหมาที่ไม่มีสวัสดิการอยู่เดิมไม่ได้รับการคุ้มครอง และกมธ.เสียงข้างมากจะตอบคำถามกับประชาชนที่ทำงานเป็นพนักงานจ้างเหมาในพื้นที่ของตนเองอย่างไร
ขณะที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ลุกอภิปรายด้วยว่าการแก้ไขของกมธ.ดังกล่าวถือว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าหลักการ หากกมธ.ยืนยันจะเดินหน้าต่อจะทำให้สภาฯลงมติไม่เห็นด้วยและการโหวตในวาระสามจะต้องตกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำให้ที่ประชุมต้องพักการประชุมไปกว่า 30 นาที ก่อนจะกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา ในฐานะเลขานุการกมธ. ชี้แจงว่าการตัดมาตราดังกล่าวออกไป เพราะตามความมุ่งหมายของกฎหมาย ต้องการมุ่งคุ้มครองแรงงานในภาคเอกชน โดยไม่เกี่ยวกับการจ้างเหมาของภาคราชการ ขณะที่นายวรศิษฎ์ อภิปรายยืนยันว่า หากกฎหมายนี้ถูกถอดหรือยกเลิก คนที่รอกฎหมายนี้จะเดือดร้อน หากให้เริ่มกระบวนการใหม่ ตนไม่ติดและทำได้ แต่ประชาชนพร้อมรอหรือไม่ สิ่งสำคัญคือ ตนอยากให้กฎหมายฉบับดังกล่าวใช้บังคับให้เร็วที่สุด โดยไม่สนใจว่าจะชักเข้าหรือออกหรือเอาสีข้างเข้าถูก
ทั้งนี้นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ประธานกมธ. ขอนำรายงานฉบับดังกล่าวออกไปปรับปรุง ทั้งนี้ต้องได้รับความยินยอมจากที่ประชุมตามข้อบังคับ ดังนั้นหากไม่มีผู้ใดขัดข้อง คือ ยินยอมให้นำไปปรับปรุงและเสนอใหม่อีกครั้ง
ทำให้ที่ประชุมถอนร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ออกไปปรับปรุงเป็นครั้งที่สอง
