“โรม” สวนทันควัน “มีคนมีอำนาจมากไปล็อบบี้” คดีฮั้วเลือกสว.นี่! ถามแบบนี้แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ห่วงเป็นแค่เกมต่อรองทางการเมือง สุดท้ายจบลงด้วยการเคลียร์ “ดีล” กัน งง “กกต.” ไม่ขยับอะไร ข้องใจไม่ดำเนินการเองปล่อยให้ “ดีเอสไอ” ทำแทน
เมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ (กคพ.) เลื่อนการพิจารณาคดีฮั้วเลือกตั้งสว.โดยจะมีการเรียกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาสอบสวนก่อนว่า เห็นว่ามีคนไปล็อบบี้ มีอำนาจมากที่ไปล็อบบี้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใคร แต่ตนคิดว่าการทำแบบนี้เข้าข่ายการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ และคิดว่าการใช้ดุลยพินิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการในการรับเป็นคดีพิเศษ ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นอำนาจของกรรมการในระดับที่ต้องไปว่ากัน อย่างไรก็ตามตนขอเรียนตามตรงว่าในส่วนของการทำหน้าที่ของกกต.ก็ต้องทำ แต่ในส่วนที่ดีเอสไอต้องดำเนินการ ซึ่งจะเป็นเรื่องของอั้งยี่ ซ่องโจร ถ้ามีจริง ทางดีเอสไอก็สามารถรับทำคดีได้ แต่ปัญหาวันนี้เรื่องฮั้วสว.ตนไม่อยากให้มองว่าเป็นสว.หรืออะไร แต่อยากให้มองว่าเป็นคดีๆหนึ่ง ที่หน่วยงานรัฐจะต้องดำเนินการ
“ปัญหาคือมีคนมาแทรกแซงหรือไม่ ผมอยากให้คนที่ใช้อำนาจนั้นหยุด และควรใช้กระบวนการตามกระบวนการยุติธรรมดำเนินการ ผมคิดว่าเรื่องฮั้วสว.เป็นเรื่องที่มีความร้ายแรง วันนี้เราจะยอมรับกันได้หรือไม่ว่า เรื่องนี้ทำลายความน่าเชื่อถือความศรัทธาของพี่น้องประชาชนที่มีต่อฝ่ายนิติบัญญัติและสว.ก็เป็นส่วนหนึ่งของสภาฯ ดังนั้นถ้าเรื่องนี้จบด้วยการเคลียร์ จบด้วยการล็อบบี้ หรือจบด้วยการไม่มีความจริงออกมา มันจบแค่การต่อรองทางการเมือง ผมคิดว่าประชาชนจะเชื่อมั่นและศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร ฉะนั้นผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรจบด้วยความไม่โปร่งใส วิธีการที่ดีที่สุดของเรื่องนี้คือความโปร่งใส ถ้ามีพยานหลักฐาน มีคนที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วสว.จริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า มองว่าสุดท้ายแล้วจะใช้ดีเอสไอเป็นแค่เกมต่อรองเท่านั้นหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงว่าจะกลายเป็นเรื่องของการต่อรองทางการเมือง ซึ่งไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่เป็นห่วงว่าจะมีการแทรกแซงจากบุคคลที่ 3 ที่จะเข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะทำให้ความยุติธรรมเสียหายกันหมด วันนี้คนเล่นใหญ่รัชดาลัย แต่สุดท้ายจบลงด้วยการเคลียร์ จบลงที่การดีล ซึ่งเป็นเรื่องที่เรารับไม่ได้
เมื่อถามว่า สว.บางส่วนไม่พอใจที่กคพ.จะเรียก กกต.ไปชี้แจง โดยตั้งคำถามว่ามีอำนาจอะไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จะใช้คำว่าเรียก หรือเชิญ ตนไม่ก้าวล่วง แต่คิดว่าเรื่องนี้ กกต. ต้องชี้แจง เพราะมีความเป็นไปได้ว่าการฮั้วสว.เกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นการที่ กกต.จะไปชี้แจงกคพ. ก็ไม่เสียหายอะไร และเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจของการดำเนินคดี ซึ่งจริงๆก็เป็นคำถามว่าทำไม กกต.ไม่ดำเนินการเอง แต่กลับให้ดีเอสไอดำเนินการ ทั้งที่ กกต.ควรจะเป็นผู้ริเริ่มดำเนินการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่กลับปล่อยให้ฝ่ายอื่นมาดำเนินการแทน
อย่างไรก็ตาม การตั้งคดีว่าอั้งยี่ซ่องโจร สามารถตั้งได้โดยอีเอสไอ ส่วนถ้ามีมิติอื่นที่เป็นอำนาจของ กกต.ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเอง แต่วันนี้เราไม่เห็นกกต.ขยับอะไร ไม่รู้ว่าติดอะไร