วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 28, 2025
หน้าแรกHighlight“กัณวีร์”เปิดจดหมาย 3 ฉบับ“ชาวอุยกูร์” ยันไม่สมัครใจกลับจีนกลัวติดคุก-ถูกฆ่า
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“กัณวีร์”เปิดจดหมาย 3 ฉบับ“ชาวอุยกูร์” ยันไม่สมัครใจกลับจีนกลัวติดคุก-ถูกฆ่า

‘กัณวีร์’ เปิดจดหมาย 3 ฉบับ ‘ชาวอุยกูร์’ ยืนยัน ‘ไม่สมัครใจ’ กลับจีน กลัวติดคุก และถูกฆ่าตาย ย้ำ รัฐไทยอย่าทำตัวเป็นขบวนการนำพา หยุดบิดเบือนและยอมรับความจริง

วันที่ 28 ก.พ.68 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ทวิตข้อความระบุว่า “เปิดจดหมาย 3 ฉบับ จากเสียงผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่เคยถูกกัก และผู้ที่ถูกผลักดันกลับจีน มาดู (ฟัง) เสียงคนที่ไม่สามารถเปล่งเสียงออกจากห้องกักเป็นเวลาเกือบ 11 ปี สุดท้ายรัฐไทยเปล่งเสียงแทนว่า พวกเค้าอยากกลับจีนมากเพื่อไปเจอครอบครัวเค้า !!

จดหมายทั้งสามฉบับเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือขอความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ถูกกักและคุมขังในไทยมานานเกือบ 11 ปี โดยที่

จดหมายฉบับแรก มาจากผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ถึง UNHCR เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 แต่จดหมายไปไม่ถึง UNHCR ทาง สตม.เก็บไว้และส่งคืนให้ผู้ต้องกักระหว่างอดอาหาร เมื่อเดือน ม.ค.2568 ที่แจ้งชัดเจนว่า “อย่าส่งเค้ากลับจีน เพราะหากถูกส่งไปชีวิตเค้าไม่ถูกขัง ก็ถูกทรมานและอาจตายได้” จดหมายฉบับนี้ถูกดองและส่งคืน

จดหมายฉบับที่สอง นอกจากนี้ยังมีจดหมายจากญาติของผู้ต้องกักที่เป็นตัวแทนของ 43 อุยกูร์ ถึงนายกรัฐมนตรีของไทย ขอให้ส่งตัวชาวอุยกูร์ที่เป็นลูกๆ และสามีพวกเขาไปประเทศอื่น จดหมายส่งไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย.2567 ย้ำเรื่องการที่นายกฯ ก็เพิ่งได้รับคุณพ่อที่เพิ่งกลับมาราวมครอบครัวได้ ซึ่งเป็นหัวอกของความเป็นสมาชิกในครอบครัวที่ถูกทำให้แยกจากกัน และต้องเข้าใจให้ตรงกันนะครับว่าครอบครัวของ 43 อุยกูร์นี้ถูกส่งไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สาม (ตุรกี) เมื่อปี 2568 นะครับ ไม่ใช่อยู่ที่จีน !!

จดหมายฉบับที่สามเขียนโดยผู้ต้องกักอุยกูร์ในห้องกักที่สวนพลูขอความช่วยเหลือ SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากประชาคมโลก ไม่ให้ถูกบังคับส่งกลับไปยังประเทศจีน เนื่องจากภัยอันตราย โดยพวกเขาประกาศอดอาหารเป็นเวลา 19 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 -28 ม.ค.2568

นี่คือเสียงจากผู้ที่ไม่มีเสียง (Voices of the Voiceless) ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์และครอบครัวที่ถูกทำให้แยกกันเป็นเวลามากกว่า 10 ปี จะเอายังไงรัฐบาลไทย ?? จะนั่งโต๊ะแถลงแบบหลอกลวงคนทั้งโลกว่าเค้าอยากกลับประเทศเองโดยสมัครใจอีกหรือไม่ ?? เค้าประท้วงโดยการอดอาหารตอนต้นปีนี้เพราะกลัวว่าจะถูกผลักดันกลับจีน !! ญาติเค้าที่อยู่ตุรกีขอให้ใช้หลักการรวมครอบครัวไปที่ตุรกี แล้วบอกนายกฯ เราขอให้เอาใจท่านมาใส่ใจเค้าในฐานะลูกสาวที่พ่อเพิ่งกลับมารวมครอบครัวจากการลี้ภัยในต่างประเทศ เอ้าจะว่าไง ??

เลขา สมช.บินไปจีนไปร่วมสร้างภาพกับการโกหกหลอกลวงจากนักการเมืองที่อ้างหลักสิทธิมนุษยชนผิดๆ บิดเบี้ยวนี้ ท่านไปทำทำไม ผมเสียใจอย่างแท้จริงกับการจัดฉากหลอกลวงระดับโลกนี้ แถม ผบ.ตร.มาอ้างว่าเค้าอยากกลับบ้านไปรวมครอบครัวมันคืออะไร ?? ไอ้การที่ ผบ.ตร.ไม่รู้วิธีการแก้ไขแบบยั่งยืนด้านผู้ลี้ภัยผมไม่ติดนะเพรา่ะคงไม่รู้จริงๆ แต่อย่าเสนอสิ่งที่จะทำให้สังคมตระหนักรู้ที่ผิดเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน โดยบอกว่าเราเสียภาษีเลี้ยงดูเค้ามาอย่างยาวนาน ทำไมต้องดูแลและเค้าอยากกลับบ้าน โถ่ !! เพราะจริงๆ มีมากกว่า 1 ประเทศอยากรับมาอย่างยาวนาน แต่รัฐไทยไม่ให้

หยุดบิดเบือนการกระทำผิด ทำงานลับๆ ล่อๆ ทำอย่างกับขบวนการนำพา (Human Smuggling) ทำเป็นไม่บอกไม่กล่าว ทำให้เสร็จก่อนแล้วให้จีนแถลงก่อน หากท่านโปร่งใสและกล้าหาญจริงและบอกว่าตัวเองทำชอบธรรมแล้ว ทำไมไม่ประกาศตั้งแต่แรกที่มีการตกลงกับสีจิ้นผิง แล้วแจ้งให้สาธารณะทราบ ที่สำคัญที่สุด ไม่แจ้งให้ผู้ลี้ภัยอุยกูร์ทราบว่ามีกระบวนการอะไร เค้าเต็มใจหรือไม่ และให้เค้าบอกเองว่าเค้าอยากกลับไปจีนเอง !!

หยุดการแก้ตัวที่บิดเบือนข้อเท็จจริงและเสนอเหตุผลยอดแย่ ต้องยอมรับความจริง !!”

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img