วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSแย้มมีสส.อีกหลายคนเสียบบัตรแทนกัน ‘นิพิฏฐ์’ย้ำทำเพียงลำพัง-ปชป.ไม่เกี่ยว
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แย้มมีสส.อีกหลายคนเสียบบัตรแทนกัน ‘นิพิฏฐ์’ย้ำทำเพียงลำพัง-ปชป.ไม่เกี่ยว

“นิพิฏฐ์” ผู้ยื่นสอย 4 ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน แย้มยังมีส.ส.อีกหลายคนที่ทำ แต่เป็นเรื่องสภาฯต้องตรวจสอบกันเอง วอนพรรคร่วมอย่าโทษ “ปชป.” เพราะทำเองคนเดียว พรรคไม่เกี่ยวข้อง เผยสเตปต่อไปมี 2 ช่องทางเชือด 4 ส. เชื่อใช้เวลาไม่นาน

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.64 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เปิดเผยว่า มีส.ส.พรรคภูมิใจไทยเสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โพสต์แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่ “กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดส.ส.พรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ รวม 4 คน เสียบบัตรแทนกันว่า “เรื่องส.ส.เสียบบัตรแทนกัน อ่านข่าว ป.ป.ช.มีมติชี้มูล ส.ส.ที่เสียบบัตรแทนกัน มีผู้ถามว่า แล้วต่อไป จะเป็นอย่างไร ผมขอตอบตรงนี้เลยครับ

1.เรื่องนี้ เป็นความผิด 2 กรณี คือ

1.1 เป็นความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยป.ป.ช. ต้องส่งไปยังอัยการ เพื่อฟ้องยังศาลฎีกาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะใช้เวลาอีกเท่าไหร่ คิดว่า 3-4 เดือน ก็น่าฟ้องได้ เพราะคดีนี้ไม่ซับซ้อนอะไร

1.2 เป็นความผิดฐานฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 226 ประกอบมาตรา 235 กรณีนี้ ป.ป.ช.ฟ้องยังศาลฎีกาได้เลย โดยไม่ต้องส่งอัยการ คดีนี้ ก็จะเร็วกว่าคดีตามมาตรา 157 ใช้เวลา 1-2 เดือน ก็น่าจะฟ้องได้

1.3 เมื่อมีการฟ้องตามข้อ 1.1 และ 1.2 แล้ว ศาลฎีกาอาจสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ เหมือนที่เคยสั่งมา เช่น กรณี ส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์

2.การกระทำผิดตาม ข้อ 1 และ 2 จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ทำให้สมัครส.ส./ส.ว.หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นไม่ได้ตลอดไป

3.มีคนถามว่า ส.ส.ที่เสียบบัตรแทนกัน มีแค่นี้หรือ ขอตอบว่า ยังมีอีกหลายคนครับ แต่ไม่ใช่เรื่องของผมที่จะร้องใคร เป็นเรื่องที่สภาต้องตรวจสอบกันเอง ผมไม่ได้โกรธเคืองใครเป็นการส่วนตัว ที่ทำมาก็เพราะเป็นข้อมูลในพื้นที่ ที่ผมเห็นประจักษ์เท่านั้นเอง

4.กว่าจะทำคดีนี้ได้ และเดินมาถึงวันนี้ยากลำบากครับ ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากใคร หาข้อมูลยากมาก ต้องขอขอบคุณเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เห็นความไม่ถูกต้องที่กล้าให้ข้อมูล แม้พรรคที่ผมสังกัด ก็ไม่มีใครสอบถามอะไรเลย พรรคร่วมรัฐบาลก็อย่าโทษพรรคประชาธิปัตย์เลย เพราะไม่มีใครสอบถามผมเรื่องนี้เลย ผมทำตามลำพัง ในการทำคดีนี้ ผมลาออกจากทุกตำแหน่ง แม้กระทั่งลาออกจากรองหัวหน้าพรรค เพื่อให้เห็นว่า ผมทำตามลำพัง พรรคไม่เกี่ยวข้อง

5.ระบบการเมือง และระบบความยุติธรรมของประเทศ กำลังถูกกัดกร่อนอย่างรุนแรง แต่หากประชาชนรักษาสิทธิของตัวเอง ไม่ยอมแพ้ ต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ไม่เห็นแก่อามิสสินจ้าง เราก็สามารถสร้างการเมืองที่สุจริตได้ ทั้งหมด อย่าชี้นิ้วด่าคนอื่น ให้ถือว่า เราก็มีส่วนรับผิดชอบบ้านเมืองด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าคิดอย่างนี้ บ้านเมืองก็ไปได้ แต่หากมัวชี้นิ้วด่าคนอื่น ก็เหมือนรัฐนาวากำลังจะจม ก็ตัวใครตัวมันครับ ขอให้กำลังใจทุกท่านที่ต่อสู้กับความไม่ถูกต้องในบ้านเมืองครับ/”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img