วันจันทร์, มีนาคม 31, 2025
หน้าแรกHighlight‘อังคณา’จี้‘กกต.-DSI’สางฮั้วสว.จบให้ไว ไม่เชื่อ‘4ผู้ยิ่งใหญ่’คุยกันแค่เรื่อง‘กาสิโน’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘อังคณา’จี้‘กกต.-DSI’สางฮั้วสว.จบให้ไว ไม่เชื่อ‘4ผู้ยิ่งใหญ่’คุยกันแค่เรื่อง‘กาสิโน’

“อังคณา” ไม่แปลกใจ ”กคพ.“ รับคดีฮั้ว เลือกสว.เป็นฟอกเงิน ลั่น ถ้าทำมาขนาดนี้ขอทำต่อให้จริง ไม่เชื่อ “เนวิน-อนุทิน” พบ “ทักษิณ” แค่คุยเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บอกกังวลอย่าเป็นเกมต่อรองการเมือง จี้ กกต.เร่งจัดการเสร็จให้เร็วอย่าปล่อยไว้นาน ดีเอสไอต้องพิสูจน์ตัวเอง เหน็บ “ทวี” พูดเยอะ ถ้าทำไม่ได้ น่าเสียใจ

วันที่ 7 มี.ค.2568 เวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา นางอังคนา นีละไพจิตร สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงมติที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) 11 เสียง รับคดีฮั้วเลือกสว.เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน ว่า ที่แปลกใจคือทำไมคณะกรรมการที่เป็นตำรวจไม่มาประชุมให้ครบ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และสังคมให้ความสำคัญ จึงทำให้เสียงหายไป ซึ่งมีผลต่อการพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ เพราะหากครบองค์ประชุมแล้วจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ว่ากันไป และไม่แปลกใจที่กคพ.รับเป็นคดีฟอกเงิน เพราะจากที่ทราบน่าจะมีการพูดคุยกันแล้วในระดับหนึ่ง แต่ในฐานะที่ฟังมาจากประชาชน เมื่อทำมาถึงตรงนี้ก็ทำต่อให้จริงก็แล้วกัน

เมื่อถามว่าที่ระบุว่ามีการพูดคุยกันนั้นหมายถึงใคร นางอังคณา กล่าวว่า ที่มีข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ​และรมว.มหาดไทย ไปพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งเรื่องนี้มีการพูดกันเยอะในหน้าสื่อและโซเชียล เมื่อถามว่าเชื่อหรือไม่ว่ามีการไปพูดคุยเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์กัน นางอังคณา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เชื่อ และคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องคดีนี้ด้วยถือเป็นเรื่องสำคัญ

เมื่อถามว่าในส่วนของสว.อาจจะมีการยื่นอภิปรายรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ส่วนตัวจะร่วมด้วยหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า โดยส่วนตัวตนยืนยันมาตลอดว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าการตอบโต้ในลักษณะนี้เป็นการฟ้องปิดปาก และตนก็คัดค้านเรื่องการฟ้องปิดปาก หรือฟ้องเพื่อปิดกั้นการมีส่วนร่วมสาธารณะ คงไม่ร่วมด้วย แต่ก็เคารพความคิดเห็นของสว.ส่วนใหญ่ ท่านมีสิทธิ์ที่จะทำได้ อยากให้ทุกฝ่ายทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกรมสอบสวนพิเศษ​(ดีเอสไอ) หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างไรก็ตามตนเป็น 1 ใน 199 คน ที่จะต้องถูกตรวจสอบ ซึ่งก็พร้อม

เมื่อถามว่า มองว่าคดีที่เป็นการฮั้วที่กกต.ทำอยู่ จะทันหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ขอย้อนว่าเรื่องของตนมีการสอบถามว่ามีประสบการณ์ 10 ปีจริงหรือไม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ค้นในเว็บไซต์ก็เจอ ยังใช้เวลากว่า 7 เดือน และตอนที่กกต.ออกหมายเรียกไปให้ข้อมูล ตอนนั้นตนก็ถามเจ้าหน้าที่ว่า แล้วเรื่องที่มีการซับซ้อนมากกว่านี้รวมถึงใช้เวลามากกว่านี้ จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งก็ได้ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าคงจะมีการขอขยายเวลา แต่ไม่ทราบว่าจะขอขยายไปได้อีกเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่วันแรกที่มีการประกาศรายชื่อของสว.ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด ฉะนั้น กกต. ควรจะรีบเร่งในการดำเนินการ ไม่ควรปล่อยให้ล่าช้า และคลุมเครือไปเรื่อยๆ

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าสุดท้ายเรื่องนี้อาจจะหายไปหรือทำไม่ทัน นางอังคณา กล่าวว่า ในกระบวนการยุติธรรม หากมีการกล่าวหาว่ากระทำความผิด กว่าจะมีกระบวนการส่งฟ้องหรือสืบพยานนั้น แล้วเหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่ เผลอๆอาจจะหมดวาระไปแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุว่าหากมีการอั้งยี่กันก็สามารถที่จะสอบต่อไปได้ มองว่าจะมีการนำการ์ดใบนี้ออกมาเล่นเกมการเมืองกันอีกในช่วงไหน นางอังคณา กล่าวว่า กังวลว่าอย่าให้เป็นเกมการต่อรอง เพราะหากมีการสืบจากคดีฟอกเงินแล้วพบว่าเป็นการอั้งยี่ แล้วใช้ข้อเท็จจริงเป็นเครื่องต่อรองนั้น สังคมจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แต่หากพบว่าเป็นการอั้งยี่จริงและมีการดำเนินการต่อ ก็จะทำให้สังคมเกิดความชัดเจนและจะเป็นการพิสูจน์การทำงานว่าดีเอสไอทำงานภายใต้แรงกดดันทางการเมืองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลแต่ละสมัยก็พบว่าดีเอสไอถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง มีอดีตอธิบดีเคยติดคุก และบทบาทที่สำคัญที่สุดของสว.คือการเห็นชอบและพิจารณาคุณสมบัติขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะปีนี้ที่กกต.จะหมดวาระกันหลายคน ซึ่งหากเป็นความจริงว่าสว. 199 คน หรือจะเป็น 138+2 คน มาโดยไม่ชอบ ตรงนี้จะเป็นการทำลายรากฐานของระบอบประชาธิปไตย ทำลายความโปร่งใสและกลไกตรวจสอบทั้งหมด  ฉะนั้น ขอให้มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ดีเอสไอก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง

เมื่อถามว่า หากสว.แต่งตั้งกกต. ชุดใหม่ก็จะเป็นคนของตัวเองใช่หรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ถูก และจะมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งถัดไปด้วย รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือศาลรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งสว.จะตกเป็นเป้าในการเลือกองค์กรอิสระต่างๆ โดยเฉพาะกกต.ที่มีความสำคัญอย่างมากแล้วต่อไปสังคมจะไว้วางใจได้อย่างไรว่าเราจะมีองค์กรอิสระที่เป็นอิสระ ผู้แทนของประชาชนที่เป็นผู้แทนอย่างแท้จริง หวังว่าจะไม่เอาเรื่องนี้เป็นเครื่องมือการต่อรองทางการเมือง แต่ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงและพ.ต.อ.ทวี ก็เหมือนเดิมพันด้วยตำแหน่งของตัวเอง หากสุดท้ายทำอะไรไม่ได้ก็น่าเสียใจ ที่พูดอะไรไปตั้งเยอะแต่สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ ส่วนองค์กรอิสระที่สว.ชุดนี้มีการเลือกไปแล้วนั้น ตนกังวลว่าหากสุดท้ายผลออกมาว่ามีสว. ที่อาจจะได้มาโดยไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ แล้วผลจากการที่สว.ได้ไปเลือกองค์กรอิสระแล้ว จะมีผลกระทบหรือไม่ หรือไม่เป็นอะไร แต่ก็ขอให้กกต.รับดำเนินการไปก่อน

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img