นายกฯกำชับให้คณะเยือนอุยกูร์ปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ เพื่อสื่อสารความจริงด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยให้การเคารพมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลจีนเปิดโอกาสให้ผู้นำระดับสูงของไทยเห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับสู่มาตุภูมิ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 23:30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ออกเดินทางด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศจาก กองบิน 6 ดอนเมือง มุ่งหน้าสู่ เมืองอุรูมูฉี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือฝั่งตะวันตกของประเทศจีน ใกล้กับ ประเทศคาซัคสถานและอุซเบกิสถาน
หลังจากเติมน้ำมันประมาณ 2 ชั่วโมง คณะจะเดินทางต่อไปยัง เขตปกครองตนเองซินเจียง-อุยกูร์ โดยจะถึง ท่าอากาศยานเมืองคาซือ มณฑลซินเจียง-อุยกูร์ เวลาประมาณ 09:30 น. ของวันพุธที่ 19 มีนาคม 2568 โดยได้รับการต้อนรับจาก นายซู ต้าถง (Xu Datong) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน และ นายฉี หยานจุน (Qi Yanjun) รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรค และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน
จากนั้น คณะผู้แทนไทยจะเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับ การดำเนินการและการดูแลกลุ่มบุคคลที่ไทยส่งกลับประเทศจีน และจะหารือร่วมกับ นายฉี หยานจุน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน
ลงพื้นที่เยี่ยมชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับบ้านเกิด
ในช่วงบ่าย คณะผู้แทนไทยจะแบ่งออกเป็น 2 คณะ เพื่อลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับจากประเทศไทย ไปยังบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจาก เมืองคาซือ มณฑลซินเจียง-อุยกูร์ ประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
คณะที่ 1 ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ
คณะที่ 2 ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะ พร้อมสื่อมวลชน โดยมี นายซู ต้าถง (Xu Datong) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน และคณะอำนวยความสะดวก
ในช่วงค่ำของวันพุธที่ 19 มีนาคม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ จะประชุมหารือร่วมกับ ทีมแพทย์ที่ดูแลชาวอุยกูร์ และหารือร่วมกับตัวแทน ชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ผ่านการประชุมวิดีโอคอลจากห้องประชุมโรงแรมที่พัก
นายกฯ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชน
นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้คณะผู้แทน สื่อสารความจริงให้ปรากฏ เพื่อให้นานาอารยะประเทศเห็นว่า ประเทศไทยมีความตั้งใจในการรักษาสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า คณะผู้แทนจะใช้ วิดีโอคอล เป็นช่องทางสื่อสารกับสื่อมวลชนไทย เพื่อให้เห็นถึงทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเดินทางไปจนถึงการเยี่ยมเยียนชาวอุยกูร์ที่เดินทางกลับบ้านเกิด เพื่อสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไทยมีเจตนารมณ์ในการดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ชาวอุยกูร์ได้กลับสู่บ้านเกิด แทนการถูกกักขังอยู่ในห้องแคบ ๆ มานานกว่า 10 ปี โดยไม่มีอนาคตที่แน่นอน