วันพุธ, มีนาคม 19, 2025
หน้าแรกHighlight”เท้ง”มั่นใจข้อมูลซักฟอกตอกย้ำรอยร้าว “พรรคร่วมรัฐบาล”อาจลามถึง“ยิ่งลักษณ์”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”เท้ง”มั่นใจข้อมูลซักฟอกตอกย้ำรอยร้าว “พรรคร่วมรัฐบาล”อาจลามถึง“ยิ่งลักษณ์”

‘หัวหน้าเท้ง’ มอง สิ่งสำคัญกว่าจำนวนชั่วโมง คือวันในการซักฟอก-หักเวลาประท้วง มั่นใจ อภิปรายตอกย้ำรอยร้าว ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ เป็นปัญหาหลัก การบริหารงาน ‘รัฐบาล’ ชุดนี้ เชื่อ ถอดชื่อ ‘ทักษิณ’ ทำให้พูดได้กว้างขึ้น อาจมีไปถึง ‘ยิ่งลักษณ์’ ด้วย

วันที่ 19 มี.ค. 68 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวย้ำถึงจุดยืนของฝ่ายค้าน ในการเจรจาเรื่องญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เราอยากให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเดินหน้าอย่างราบรื่น ซึ่งควรจะมีข้อสรุปให้ได้ ว่าตกลงแล้วจะอภิปรายภายในกรอบเวลากี่ชั่วโมง รวมถึงกติกาในการหักเวลาระหว่างกัน เช่น หากมีการประชุมก็ควรจะต้องมีการหักเวลาของแต่ละฝ่าย ไม่ให้กินเวลาของฝ่ายอื่น

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย มีมติว่าจะให้เวลาฝ่ายค้านอภิปราย 23 ชั่วโมง และฝ่ายรัฐบาลอีก 7 ชั่วโมง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องเวลายังสามารถปรับยืดหยุ่นกันได้ แต่ส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน คือจำนวนวัน ที่ต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพในการประชุมสูงสุด คือต้องไม่เลิกดึกเกินไป เพราะนายกรัฐมนตรีอาจจะยังไม่สามารถชี้แจงได้มีประสิทธิภาพเพียงพอ และนายกรัฐมนตรีอาจจะยังรวบรวมประเด็นได้ไม่หมด ถ้าวันสุดท้ายเลิกดึกถึงเที่ยงคืน อีกประการหนึ่ง คือประชาชนที่รับฟังอยู่ ก็อาจจะฟังได้ไม่ทั่วถึง รัฐบาลจึงควรเปิดกว้างให้มีการอภิปรายอย่างตรงไปตรงมา

เมื่อถามว่า หากฝ่ายรัฐบาลเสนอ เวลาให้ฝ่ายค้าน 25 ชั่วโมง จะรับได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องเงื่อนไขของเวลายังไม่อยากพูดก่อนการประชุม เพราะอาจจะเสียมารยาท แต่ยืนยันตามหลักการว่า ต้องอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ คือประชาชนสามารถติดตามได้อย่างทั่วถึง

เมื่อถามว่าการแก้ไขญัตติ โดยเปลี่ยนจากชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคำว่าบุคคลในครอบครัว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทำให้สามารถอภิปรายได้กว้างขึ้น และธีมในการอภิปรายครั้งนี้คือ ‘ดีลแลกประเทศ’ ซึ่งหมายความว่า เรามองเห็นว่าพรรคเพื่อไทยนำประโยชน์ของประเทศมาแลกกับผลประโยชน์ของคนในครอบครัว และเชื่อว่าในการอภิปรายจริง จะมีการใช้คำอีกหลากหลาย มากกว่าคำว่าบุคคลในครอบครัว เพราะคำนี้เป็นภาษาทางการในญัตติ ซึ่งค่อนข้างมีความเหมาะสม

เมื่อถามว่านายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ระบุ เมื่อเปลี่ยนเป็นคำว่าบุคคลในครอบครัวแล้ว จะสามารถอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลอื่นในครอบครัวชินวัตรได้ เช่น นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ ถ้าอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง เพราะเรามองว่าการบริหารที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้เอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นตัวตั้ง แต่เอาผลประโยชน์ของบุคคลในครอบครัวชินวัตรเป็นตัวตั้งมากกว่า

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ข้อมูลในการอภิปรายหลายส่วนเป็นข้อมูลเชิงลึก ที่ไม่เคยมีการเปิดเผยต่อสื่อมวลชนมาก่อน ซึ่งคาดว่าคงไม่ถึงขั้นลงมติถอดถอนนายกรัฐมนตรี แต่จะมีกระบวนการยื่นฟ้องร้องเอาผิดตามกฎหมายต่อไป โดยใช้ข้อมูลจากการอภิปรายเป็นหลักฐาน หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถตอบได้ชัดเจน กระบวนการนี้ก็จะทำให้มีแนวโน้มสูง ที่จะทำให้นำไปสู่การยื่นถอดถอนได้ในอนาคต

เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประสงค์จะอภิปรายด้วย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องมีการจัดสรรเวลาให้กับพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นอยู่แล้ว แต่พรรคพลังประชารัฐจะให้ใครเป็นผู้อภิปราย ก็เป็นสิทธิ์

เมื่อถามว่า ยังยืนยันอยู่หรือไม่ หากเสียงลงมติของฝ่ายรัฐบาล หายไปแม้เพียงหนึ่งเสียง จะสะท้อนเสถียรภาพ และภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทุกคะแนนเสียงที่โหวตเห็นชอบให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีส่วนสำคัญ เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถจับตา และประเมินได้ ว่านายกรัฐมนตรีสามารถควบคุมเสียงของรัฐบาลได้จริงหรือไม่

“การอภิปรายในครั้งนี้ จะตอกย้ำรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล ว่าเป็นปัญหาหลักของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งต้องรอดูว่านายกรัฐมนตรีจะตอบเอง หรือจะมอบหมายให้รัฐมนตรีคนอื่นชี้แจงแทน ซึ่งบรรยากาศส่วนนี้จะทำให้เราเห็นประเด็นตรงนี้ได้ชัดเจนขึ้น”นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีมีการเปรียบเทียบระหว่างภาพปลาหมอคางดำ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล กับภาพของนายกรัฐมนตรี และครอบครัว ภายในทำเนียบรัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ภารกิจของนายกรัฐมนตรีมีความหลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับผู้นำประเทศ คือการแสดงออกว่ารับรู้ความรู้สึกของประชาชนที่ประสบปัญหา ส่วนตัวคงไม่ขอให้ความเห็น ว่านายกรัฐมนตรีจะไปทำภารกิจอะไร

นายณัฐพงษ์ ยังอยากฝากไปว่า ประชาชนทุกคนมีความเดือดร้อน การแสดงออกทุกย่างก้าวของนายกรัฐมนตรีย่อมส่งผลต่อความรู้สึกของประชาชน

เมื่อถามว่านายวิโรจน์ เข้าร่วมสังเกตการณ์ม็อบปลาหมอคางดำ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ใช้คำไม่เหมาะสม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นายวิโรจน์อาจจะมีความโกรธเคืองแทนพี่น้องประชาชน ผู้นำทุกระดับล้วนมีความรู้สึก การสะท้อนความรู้สึกแทนประชาชนก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่จะทำให้ประชาชนรู้สึกว่า เราเป็นผู้แทนของพวกเขา และเรื่องการใช้คำต่างๆ ก็อาจจะเกิดขึ้นได้หน้างาน แต่เชื่อว่า นายวิโรจน์ตั้งใจแสดงออกถึงความเป็นตัวแทนของประชาชน และไม่อยากให้วิเคราะห์เราไปถึงจุดที่ว่า จะมีการใช้ถ้อยคำเช่นนี้ในการอภิปรายหรือไม่ ยืนยันว่า เราจะอภิปรายอย่างสร้างสรรค์

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img