“เทพไท” เหน็บศึกซักฟอก “นายกฯอิ๊งค์” ให้ลากยาวถึงตี 5 ควรไปจัดประชุมที่ “ดาวอังคาร-เมืองบาดาล” จะได้ไม่ต้องให้ปชช.รับรู้กัน จี้ “ปธ.สภาฯ” ทบทวนกำหนดเวลาประชุมใหม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ปชช.มีส่วนร่วมในการรับฟัง เว้นแต่ไม่ยอมทำหน้าที่ เพราะเกรงใจ “ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล”
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กในหัวข้อ “แนะเปิดซักฟอก ที่ดาวอังคาร” มีเนื้อหาว่า…“หลังจากการประชุมวิป 3 ฝ่าย คือ วิปฝ่ายค้าน วิปฝ่ายรัฐบาลและวิปคณะรัฐมนตรี มีมติกำหนดให้เวลาการอภิปรายของฝ่ายค้าน 28 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมงแล้ว ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงระยะเวลาการเปิดอภิปราย ที่เริ่มตั้งแต่เวลา 8.00 น.ถึงเวลา 5.00 น.ของวันใหม่ ในแง่มุมต่างๆ มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดอภิปรายยาวไปถึงตี 5 ยกเว้นพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวเท่านั้น
ผมเห็นว่าการที่พรรคเพื่อไทยต้องการให้มีการอภิปรายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 8.00 น.จนถึงเวลา 05.00 น.ของวันใหม่ น่าจะมีเหตุผลหลักคือ 1.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อจำกัดในการตอบคำถามการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เลี่ยงการตอบคำอภิปรายของฝ่ายค้านให้ได้มากที่สุด 2.ใช้เวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านในช่วงกลางดึก เพื่อให้นางสาวแพทองธารเตรียมข้อมูลตอบคำอภิปรายในตอนเช้า 3.ให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับฟังการอภิปรายให้น้อยที่สุด เพราะเชื่อว่าการอภิปรายถึงตี 5 จะมีประชาชนติดตามฟังการอภิปรายน้อยมาก แม้กระทั่งสส.ในสภา ก็หนีกันไปนอนกันเป็นส่วนใหญ่ คงเหลือเฉพาะคนที่ต้องการจะอภิปราย และองครักษ์ที่คอยประท้วงเท่านั้น
แม้แต่นางสาวแพทองธารก็เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วว่า จะไม่รอฟังการอภิปรายจนถึงตี 5 และได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่า จะกลับบ้านไปเลี้ยงลูก ปล่อยให้การอภิปรายดำเนินการต่อไป เป็นหน้าที่ของทีมงานและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ต้องจดประเด็นและเตรียมคำตอบการอภิปรายของฝ่ายค้านเพื่อจะได้ตอบในวันรุ่งขึ้น
ถ้าพรรคเพื่อไทยเห็นว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ เป็นเรื่องของฝ่ายค้านตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล โดยไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ถ้ามีแนวความคิดกันแบบนี้ ควรไปจัดประชุมเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่เมืองบาดาลหรือดาวอังคาร จะได้ไม่ต้องมีใครรับรู้กัน
อยากเรียกร้องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานทั้ง 2 ท่าน ได้ทบทวนกำหนดเวลาการประชุมใหม่ และเห็นว่าการประชุมในเวลา 9.00 น. ถึง 24.00 น. น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและทุกฝ่ายมีส่วนร่วมได้ ซึ่งเป็นอำนาจของประธานสภาฯที่จะกำหนดเวลาการประชุมได้ เว้นแต่ประธานสภาฯจะไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ด้วยความเกรงใจผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลชุดนี้”
