“สส.ทสท.” อัด “แพทองธาร” ล้มเหลว ผิดพลาด ส่อทุจริตเชิงนโยบาย สงสัยดัน เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แฝงกาสิโน หลอกลวงปชช. เอื้อทุนใหญ่ แลกกับความเสียหายทางสังคมร้ายแรง แฉ พ.ร.บ.ท่าเรือ เปิดช่องขายสมบัติชาติให้เอกชน
วันที่ 24 มี.ค.68 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ ต่อมาเวลา 11.00 น. นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย อภิปรายว่า สิ่งที่ควรทำไม่ทำ สิ่งที่ไม่ควรทำแต่เร่งจะทำ นายกฯไม่มีคุณสมบัติ และไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง สิ่งที่รับปากประชาชนไว้เป็นเพียงวาทกรรมขายฝัน การแก้ไขปัญหายาเสพติดกลายเป็นลมปาก ผู้เสพล้นคุก โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาลผลักดัน อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนมากกว่าประชาชน ความโปร่งใสและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการนี้ และรัฐบาลไม่ได้หาเสียงเรื่องกาสิโน แต่วันนี้กำลังเดินหน้าผลักดัน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่แฝงการเปิดบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์ แบบถูกกฎหมาย
นี่คือการหลอกลวงประชาชน ถ้ากาสิโนดีจริง ทำไมพรรคของท่านไม่พูดตั้งแต่ตอนหาเสียง จึงขอตั้งข้อสังเกตว่าโครงการนี้จะเปิดโอกาสให้มีการออกใบอนุญาตกาสิโน ซึ่งอาจนำไปสู่การทุจริตเชิงนโยบาย โดยการอนุมัติใบอนุญาตอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจและกลุ่มทุนรายใหญ่ ซึ่งการออกใบอนุญาตกาสิโน 1 ฉบับ จะมีผลประโยชน์มหาศาล ใครจะได้ คนไทยจะได้ หรือจะตกอยู่ในมือกลุ่มทุนบางกลุ่ม แล้วเงินใต้โต๊ะในการอนุมัติแต่ละฉบับจะเท่าไหร่ และการเปิด เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะนำไปสู่ ปัญหาสังคมร้ายแรง เช่น การติดการพนัน การฟอกเงิน และปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะเมื่อไม่มีมาตรการควบคุมที่ชัดเจน
“รัฐบาลบอกว่าจะจำกัดให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเล่น แต่ในทางปฏิบัติ มั่นใจหรือว่าไม่มีทางเล็ดลอด เราเห็นตัวอย่างจากประเทศเพื่อนบ้านที่กาสิโนเต็มไปด้วยคนไทย แล้วจะควบคุมอย่างไร สุดท้ายหนี้พนันก็ตกอยู่ที่ครอบครัวคนไทย ซึ่งรายงานจากต่างประเทศชี้ว่าอุตสาหกรรมกาสิโนมีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและอาชญากรรมข้ามชาติ รัฐบาลต้องตอบให้ชัดว่า จะมีมาตรการอะไรเพื่อป้องกันไม่ให้กาสิโนกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของกลุ่มทุนสีเทา และต้องตอบให้ได้ว่าใครคือคนที่จะได้ประโยชน์จากโครงการนี้ เป็นประชาชน หรือเป็นนายทุนใหญ่ ที่สำคัญใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่ผลักดันนโยบายนี้เข้ามา ผมมีความกังวลเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การท่าเรือแห่งประเทศไทย ฉบับใหม่ ที่รัฐบาลเสนอเข้าสภา โดยระบุว่า อาจมีการแปรรูปทรัพย์สินของรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงครบวงจร พ.ร.บ. ฉบับนี้ จะให้อำนาจการท่าเรือ ในการบริหารที่ดินและทรัพย์สินของรัฐอย่างเสรี เปิดโอกาสให้มีการให้สัมปทานที่ดินท่าเรือเพื่อทำธุรกิจเอกชนได้ง่ายขึ้น อาจมีการนำพื้นที่รัฐไปใช้สำหรับธุรกิจ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หรือแม้แต่กาสิโนในอนาคต เพราะ ที่ดินของการท่าเรือฯ ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลทอง” ”นายชัชวาล กล่าว
”นายชัชวาล กล่าวอีกว่า หากมีการปรับกฎหมายให้เปิดกว้างต่อการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ อาจกลายเป็นช่องทางให้กลุ่มทุนเข้ามาครอบครองพื้นที่ที่เคยเป็นของประชาชน และอาจนำไปสู่การให้สัมปทานแบบผูกขาด ซึ่งจะส่งผลให้รัฐเสียประโยชน์ในระยะยาว เรากำลังจะเห็นพื้นที่ของรัฐถูกขายทอดตลาดให้กลุ่มทุนบางกลุ่ม โดยมีข้ออ้างเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลต้องตอบให้ชัดว่า ทำไมถึงผลักดัน พ.ร.บ. ฉบับนี้ในช่วงที่มีการเดินหน้าโครงการ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ จะบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยได้หรือไม่ เพราะกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสในการให้สัมปทานพื้นที่ท่าเรือ อาจมีปัญหาการล็อบบี้ผลประโยชน์ และเปิดช่องให้กลุ่มทุนที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลได้รับสิทธิพิเศษ ถ้ากฎหมายนี้ผ่านไป เราอาจเห็นที่ดินริมแม่น้ำ ที่ดินท่าเรือ ถูกนำไปสร้างเป็นโรงแรมหรู สถานบันเทิง หรือแม้แต่กาสิโนในอนาคต โดยมีประชาชนเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลย หากรัฐบาลยังเดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ. ฉบับนี้ อาจทำให้เกิดการขายสมบัติชาติให้กลุ่มทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศในระยะยาว”นายชัชวาล กล่าว.