“ณัฐชา” ถล่ม “นายกฯ” ละเลยแก้ปัญหาระบาดปลาหมอคางดำ เชื่อมีสัมพันธ์ใกล้ชิด “บ.ยักษ์ใหญ่” ที่เป็นผู้ต้องสงสัย ชวนสส.โหวตไม่ไว้วางใจพิสูจน์การต่อสู้กับ “ทักษิณ”
วันที่ 24 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ ต่อมา เวลา 12.44 น. ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ต่อประเด็นการละเลยการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก ว่า ตามรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร ชี้ชัดว่ามีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นคนนำเข้าเพียงรายเดียว เมื่อปี 2549 แม้จะมีข้อมูลว่าปลาหมอคางดำที่นำเข้านั้นตายหมด แต่ไม่มีการพิสูจน์ใดๆ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นที่พบการระบาดหนักในปี 2567 ไม่พบการแก้ปัญหาของรัฐบาล แม้ว่ามีม็อบปลาหมอคางดำยื่นข้อร้องเรียนต่อนายกฯ แต่นายกฯ กลับไม่สนใจ เพราะไปรับช่อดอกไม้จากนายทุน ทั้งนี้ ในช่วงการนำเข้า และระบาดหนักเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีตระกูลชินวัตรที่สัมพันธ์แนบแน่นของบริษัททุนใหญ่ที่เป็นผู้ต้องสงสัยในการระบาดของปลาหมอคางดำเป็นผู้บริหารประเทศ
“ที่ผ่านมาพบภาพการพบปะแบบมีความสนิทชิดเชื้อระหว่างคน 2 ตระกูล คือ ตระกูลของนายกฯ และบริษัทที่ต้องสงสัยว่าเป็นต้นตอของปัญหา ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ ระดับผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร และระดับอำนวยการ มีกิจกรรมประชาสัมพันธ์กับบริษัทผู้ต้องสงสัย และกรมประมง ล่าสุดอธิบดีกรมประมงระบุว่าไม่สามารถหาตัวการทำผิดได้ เพราะเรื่องเกิดมา 14 ปีแล้ว ซึ่งเป็นเพราะกรมประมงปล่อยปละละเลย” นายณัฐชา กล่าว
นายณัฐชา อภิปรายทิ้งท้ายด้วยว่า ขอให้ สส.ดูแลปัญหาและใช้อำนาจที่ได้มาจากประชาชน ไม่ใช่ได้มาจากกลุ่มทุนใด วันนี้ช่วยลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ เพื่อแสดงเจตจำนงไม่ยอมให้กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่กอบโกยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทย และเพื่อสู้กับผู้ควบคุมรัฐบาลที่ชักใย ชื่อเรียกว่า สทร. แต่มีชื่ออย่างเป็นทางการผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญตัวจริง คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เป็นผู้กำกับฉาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายของนายณัฐชา ถูกสส.พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงเป็นระยะๆ ซึ่งสส.พรรคประชาชน ได้ลุกตอบโต้กลับเช่นเดียวกัน ทำให้ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง ฐานะประธานในที่ประชุม เตือนการประท้วงว่าจะไม่มีเวลาเหลือให้ นายกฯ ได้ชี้แจง.