“อนุทิน” แจงยัน “นายกฯ”ไม่ได้สั่งการ-แทรกแซงทั้งทางตรง-ทางอ้อม ยันเพิกถอนที่ดินอัลไพน์-เขากระโดงไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่มีการแลกผลประโยชน์ใดๆ พร้อมชื่นชม “แพทองธาร” ที่มีความเด็ดขาดทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมให้กำลังใจ “สู้นะแพทองธาร”
วันที่ 24 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่สองเป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ ต่อมาเวลา 15.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้รับมอบหมายจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้ตอบประเด็นการอภิปรายของนายจุลพงศ์ อยู่เกษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้อภิปรายพาดพิงไปถึงที่ดินเขากระโดง และที่ดินอัลไพน์ และที่ดินเขากระโดง พยายามผูกสองเรื่องนี้เป็นการเอื้อประโยชน์ครอบครัวนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยซึ่งกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ว่ารัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยไม่ใช่กิจการของใครคนใดคนหนึ่งหรือครอบครัวของใคร เพราะฉะนั้นจะมาแบ่งปันผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น และนายกรัฐมนตรีไม่เคยเข้ามาแทรกแซง หรือสั่งการใด ๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย หรือตน ให้เอื้อประโยชน์ต่ออัลไพน์ และบุคคลในครอบครัวท่านนายกรัฐมนตรีแม้แต่ครั้งเดียว
กรณีการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินที่เป็นที่ตั้งสนามกอล์ฟอัลไพน์เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมากว่า 20 ปี ผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว และได้มีคำสั่งศาล มีคำพิพากษาของศาล ซึ่งมีบุคคลหลายท่านต้องโทษจากคำพิพากษาของศาลไปแล้ว และประเด็นทั้งหมดในเรื่องการเพิกถอนเอกสารสิทธิได้มายุติในรัฐบาลชุดนี้ ด้วยนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ที่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความถูกต้องมาเป็นหลักในการดำเนินการอย่างเคร่งครัด และขณะนี้ได้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ซึ่งลงนามโดยรองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน ผู้ที่มีอำนาจโดยตรง ดังนั้น ต้องถือว่าขณะนี้ตัวนายกรัฐมนตรีและบุคคลในครอบครัวท่านเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเช่นเดียวกับลูกบ้านอัลไพน์รายอื่นๆ ซึ่งท่านจะต้องไปใช้สิทธิในทางศาลเพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่ตนเองและขอรับค่าตอบแทนจากการทำนิติกรรมที่เป็นการบกพร่องของกรมที่ดินในอดีต
นายอนุทิน กล่าวต่ออีกว่า กรณีที่ดินเขากระโดงก็เช่นกัน เป็นกรณีที่กรมที่ดินปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองที่ให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ซึ่งคณะกรรมการได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า “ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ฟ้องต่อศาลปกครอง” ซึ่งขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยก็ยังคงจะไปดำเนินการฟ้องศาลต่อ เพื่อจะให้ศาลมีคำสั่งในการที่จะเพิกถอนหรือไม่เพิกถอนใด ๆ แต่ ณ ขณะนี้ตามคำพิพากษาศาลปกครองที่ระบุไว้ว่า การดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนตามาตรา 61 นั้น เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว ได้ผลอย่างไรศาลไม่อาจก้าวล่วงได้ ดังนั้น นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะไปก้าวล่วงการดำเนินการของข้าราชการหน่วยงานราชการไม่ได้เช่นกัน
“ผมได้สอบถามอธิบดีกรมที่ดินว่ามีความรู้สึกกดดันอะไรหรือไม่ที่มีเรื่องนี้ขึ้นมา ทั้งเขากระโดงและอัลไพน์ ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินได้ยืนยันกับตนและคณะทำงานอย่างชัดเจนว่า ไม่ได้กดดันใด ๆ ทั้งสิ้น และยินดีปฏิบัติตามกฎหมายและทำหน้าที่ของท่านตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดทุกประการ และเราควรจะชื่นชม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้นโยบายต่อกระทรวงมหาดไทยและกรมที่ดินผ่านตนว่า ให้ยึดถือกฎหมายเป็นหลักและไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบใด ๆ ที่จะมีตัวตัวท่านเองและครอบครัว” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า การเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์และปัญหาที่ดินเขากระโดง ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ไม่มีการตกลงแลกผลประโยชน์ใด ๆ แม้แต่เล็กน้อย และทั้งสองกรณีเป็นกรณีที่กรมที่ดินต้องดำเนินการทำตามคำสั่งศาล และทั้งสองกรณีเกิดขึ้นมาก่อนการดำรงตำแหน่งของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ดังนั้น ข้อกล่าวหาจากคำอภิปรายนั้นไม่มีข้อเท็จจริงหรือไม่มีมูลแต่ประการใด พร้อมล่าวให้กำลังใจสู้ๆนะแพทองธาร