“วิโรจน์” ขอเวลา 2-3 วัน รื้อค้นเอกสารตึก สตง. ยันต้องทำเป็น “คดีพิเศษ” เหตุเกินอำนาจตำรวจสาวได้ ตั้งข้อสงสัยฟอกเงินหรือไม่ แฉ “มาเฟียข้ามชาติ” ติดสินบนจนท.รัฐ แนะ “ผู้ว่า สตง.” ต้องรับเสียงสะท้อนไม่ถูกกาลเทศะ ย้ำต้องสำนึก-ตระหนัก ลั่น เงินที่ท่านใช้ไม่ใช่เงินของท่าน แต่คือเงินของประชาชน
วันที่ 2 เม.ย.68 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบอาคารสตง.ถล่มว่า ตอนนี้มีหลายเรื่องที่โยงเข้ามาและหลายคนตั้งข้อสังเกต เรื่องงานประมูลงาน TOR การจัดซื้อจัดจ้างว่าถูกต้องตามระเบียบ สมเหตุสมผลหรือไม่ บริษัทที่ชนะการประมูลสัดส่วนผู้ถือหุ้นเป็นอย่างไร มีการนำเอานอมินีใครเข้ามาถือหุ้นโดยที่ ไม่มีบทบาทในการบริหารใดๆเลย หรือไม่ พอโยงใยมีเข้าไปเกี่ยวพันกับหลายเรื่อง หลายคนก็เชื่อมโยงไปถึงนายทหารระดับสูงยศ พล.อ. ที่กระทำอัตวินิบาตกรรมหรือฆ่าตัวตายไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ก็อาจจะมีความโยงใย เกี่ยวพันใดๆกับบริษัทร่วมค้าบริษัทนี้ เพราะบริษัทที่มีประสบการณ์สูงไม่ชนะการประมูล เหตุใดบริษัทร่วมค้านี้จึงชนะการประมูล ทั้งหมดจะต้องมีการตรวจสอบ หรือสืบค้นเอกสารกันเลยว่ามีที่มาที่ไปข้อสังเกต ต้องมีการตรวจสอบเชิงลึก
เมื่อถามว่าข้อมูลเบื้องต้นที่ได้มาเป็นอย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าพูดถึงสตง.ก็ต้องพูดถึงประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือคตง.ด้วย ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูง ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสนช.ที่เกี่ยวข้องกับคสช. เราต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน และก็ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะมีนายทหารระดับสูงบางคนเข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทร่วมค้ารายนี้ ก็ต้องตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกันจริงหรือไม่ ในทางสุจริตหรือไม่อย่างไร เพราะมีข้อสงสัยเยอะมาก
นอกจากบริษัทและผู้ถือหุ้นยังมีเรื่องการประกวดราคา TOR การบริหารสัญญา การควบคุมงานก่อสร้าง ที่สำคัญคือมูลค่าสุทธิที่สำคัญ จากการก่อสร้างอาคารสตง. เป็นเท่าไหร่กันแน่ เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทที่เข้ามาประมูล ไม่ใช่บริษัทร่วมค้านี้ แต่มีบริษัทจีนเทาที่เข้ามาทำกิจการภายในประเทศ ถ้าเกิดเขาชนะการประมูลงาน วัสดุทั้งหมดทั้งมวล ก็จะมีการนำเข้ามาทั้งหมด ค่าแรงกับค่าปูน เม็ดเงินที่จะกระจายในเศรษฐกิจของประเทศที่ได้ประโยชน์กับประชาชนคนไทย แค่เศษเนื้อข้างเขียง หรือเศษเสี้ยวเท่านั้น
“ถ้ายิ่งปล่อยปละละเลย ให้เป็นแบบนี้ ยิ่งเป็นการทำลายเศรษฐกิจไทย และบ่อนทำลายผู้ประกอบกิจการที่ประกอบการสุจริต ในเรื่องของจีนเทาการเอานอมินีมาตั้งเป็นบริษัท และจะต้องสืบต่อไปด้วยว่าราคาประมูลที่ทำได้ต่ำขนาดนี้ เป็นเพราะศักยภาพในการนำเข้าวัสดุ ราคาถูก และต้องตรวจสอบว่ามีคุณภาพหรือไม่ เพราะราคาที่เขาเสนอมันถูกแบบผิดปกติ กับกิจการสุจริตในไทยไม่สามารถทำได้ รวมทั้งจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องการฟอกเงิน เพราะเราพบปัญหาในประเทศที่รุนแรงมากคือ มีมาเฟียข้ามชาติ ผู้มีอิทธิพลข้ามชาติ สุมหัวติดสินบนกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง ที่เอาเงินสกปรกที่ได้มาจากยาเสพติด แก๊งCall Center หรือพนันออนไลน์ หรือกิจการทุจริตใดๆก็ตามมาซื้อสินทรัพย์ และสินทรัพย์ที่การที่จะซื้อก็เป็นสินทรัพย์ที่สามารถจะผลิตเป็นเงินสด หรือฟอกออกมา จากเงินดำเป็นเงินสะอาด ป้อนคืนให้กับผู้มีอิทธิพลรายใด เช่นตอนนี้จะมีการซื้อกิจการขนส่งบ้าง ซื้อกิจการร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ตที่พักต่างๆ และที่ผมกำลังติดตามอยู่คือการเข้าไปซื้อคอนโดมิเนียม หรืออาคาร หรือห้องชุดตั้งแต่ 8-10 ล้าน และปล่อยเช่ารายวันตั้งแต่ 900-1000 บาทซึ่งคิดอย่างไรการจะคุ้มทุนมันยากมากๆ เข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่ พอเข้าไปซื้อสินทรัพย์และมาสร้างรายได้อย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นเงินสดที่สะอาดคืนให้กับผู้มีอิทธิพล ตรงนี้น่ากลัวมาก”นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้การตรวจสอบยังกระจัดกระจายจริงหรือเท็จ หรือโดยบังเอิญตนต้องตรวจสอบ ถ้าไปกล่าวหาก็จะไม่เป็นธรรม เบื้องต้นต้องดูก่อนว่าผู้ถือหุ้น บริษัทกิจการร่วมค้าที่ได้งาน เป็นผู้ถือหุ้นจริงไหม หรือเป็นนอมินี ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ยืนยันคดีนี้พอเกี่ยวพันกับผู้มีอิทธิพลข้ามชาติ ห้ามตัดประเด็นเรื่องการฟอกเงินเด็ดขาด หรือกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ การเอาเงินสกปรกมาฟอกที่เป็นข้อสงสัย เรายังยืนยันไม่ได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือต้องทำเป็นคดีพิเศษ เพราะเกินอำนาจของตำรวจที่จะเข้าไปสืบสาวขบวนการเหล่านี้ เพราะมันทำลายทั้งเศรษฐกิจไทยและประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางการฟอกเงิน อาชญากรข้ามชาติหรือเปล่าอันนี้เป็นหน้าเรื่องที่น่ากังวล
เมื่อถามว่าจะสรุปได้เมื่อไหร่นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนขอใช้เวลา 2-3 วันจะเรียบเรียงประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งหัวหน้าพรรคประชาชนมอบหมายให้ทำเรื่องนี้ และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร จะดึงเอกสารงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดของอาคารสตง.มาตรวจสอบ หรือกรณีของนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากูล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐฏิจ พร้อมที่จะสืบสวนสอบสวนจีนเทา หรือนอมินีอยู่แล้ว ตนในฐานะเป็นหัวหน้าชุดขอเวลา 2-3 วัน จะสรุปการบ้านข้อไหนที่เราจะต้องเข้าไปเจาะ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ตอนนี้พัวพันทั้งตัวนอมินี การฟอกเงิน นายทหารระดับสูงที่ฆ่าตัวตายเมื่อ 2-3 ปีก่อน ซึ่งมีภาพปรากฏว่าเกี่ยวพันกับบริษัทนี้ เพราะการถ่ายรูปร่วมกันเป็นแค่ข้อสงสัย บ่งชี้ไม่ได้ รวมทั้งประธานคตง.มีการตั้งข้อสังเกตก็ต้องให้ความเป็นธรรม
เมื่อถามถึงกรณีที่สตง.แถลงการณ์ภายในออกมาให้กับข้าราชการร่วมกันผ่านวิกฤตให้ได้ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ผู้ว่าฯออกมายอมรับว่าเป็นแถลงการณ์จริง เป็นประกาศภายใน แต่ท่านก็ต้องพร้อมการถูกกาลเทศะ และการถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว แต่ตนยืนยันว่าเราห้ามเหมารวมข้าราชการ ที่เขาตั้งใจทำงานเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเสียหายในกรณีนี้ แต่สิ่งที่สตง.ควรจะต้องรับฟังมากคือวิพากษ์วิจารณ์จากหน่วยงานราชการด้วยกัน ที่ประสบกับความลำบาก การถูกจับผิดโดยที่ไม่ได้ฟังเหตุผลจากสตง.บางท่าน เวลาที่ท่านไปตรวจคนอื่นการเบิกค่าขนม ท่านเข้มมาก แต่การจัดซื้อจัดจ้างของสตง.ที่ปรากฏราคาฝักบัวก็เป็นหมื่น เก้าอี้ตัวนึงก็หลายตัง จบลงแล้วเป็นการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ซึ่งสตง.ต้องสำนึกว่าเงินที่ตัวเองใช้จ่ายแทนประชาชนที่เป็นเงินแผ่นดิน เวลาตัวเองไปตรวจเข้มมาก แต่ที่ตัวเองเป็นคนใช้เงินต้องระลึกว่าเงินที่ใช้ไม่ใช่เงินของท่านแต่เป็นเงินของตัวเอง ที่ตัวเองไปตรวจตัวเองกับใช้ล้างผลาญ ก็ต้องกลับมาพิจารณาตัวเอง
เมื่อถามว่าหลายคนถามเรื่องสภาวะความเป็นผู้นำของสตง. นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าตอนนี้มันเป็นงานของกู้ภัย ถ้าคนที่ไม่ได้มีความรู้หลักวิศวกรรม เข้ามาเต็มไปหมด ตนเกรงว่าจะเป็นการรบกวนการทำงานของรองทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่ากทม.มากกว่า ให้เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญ และรับผิดชอบโดยตรงดำเนินการมากกว่า เพราะเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ หรือเข้ามาในพื้นที่ที่เขากำลังปฏิบัติงานกันอยู่ ก็รบกวนการทำงาน ตนเข้าใจรองผู้ว่าฯ.