‘ปชน.’ แฉพบหลายโครงการรัฐมีปัญหา ต้นตอจาก ‘บริษัทจีนสร้างตึก สตง.’ หวั่น ‘รฟฟ.ความเร็วสูง’ กรุงเทพฯ-หนองคาย มีปัญหาด้วย เรียกร้อง ‘รมว.พม.’ แจง สัญญาทีโออาร์ ‘บ้านการเคหะฯ’ จี้ ‘นายกฯ’ สอบกระบวนการ เหตุ มีกิจการร่วมค้า เปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ หลังจบงาน หนีการตรวจสอบ
วันที่ 2 เม.ย.2568 ที่รัฐสภา พรรคประชาชน นำโดย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวกรณีมีหลายโครงการรัฐที่ทำร่วมกับบริษัทจีน หรือ ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ซึ่งเป็นผู้สร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบปัญหาจากการก่อสร้างอาคารพักอาศัย โดยเฉพาะโครงการของการเคหะแห่งชาติ และยังมีกิจการร่วมค้ากับที่มีบริษัทที่มีปัญหาร่วมอยู่ด้วย แม้ว่าบางโครงการจะอาจจะเปลี่ยนผู้รับเหมา มาเป็นผู้รับเหมาของไทย หรือผู้รับเหมาบริษัทอื่นแล้ว แต่เพราะการเริ่มต้นก่อสร้าง ที่มีปัญหาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องของการใช้งานแรงงาน การจ้างเหมาแรงงานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง รวมไปถึงคุณภาพของวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง จึงตั้งข้อสังเกตว่า งานโครงสร้างทั้งหมดที่ผ่านไปแล้วจะสามารถการันตีคุณภาพได้หรือไม่ หรือจะสามารถเข้าไปตรวจสอบคุณภาพได้หรือไม่ เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นสัญญาณไม่ชอบมาพากลของบริษัทจีน ที่เข้ามารับงานในโครงการของรัฐหลายๆ แห่ง และอาจจะไปไม่ถึงวันส่งมอบงาน ไป เนื่องจากบางโครงการ ดำเนินงานไปครึ่งทางแล้วก็ทิ้งงาน ทำให้บริษัทไทยที่มารับช่วงไปต่อไม่ได้ เกิดภาวะเจ๊ง ทิ้งงาน สุดท้ายคนที่รับผิดชอบโดยตรง ก็คือพี่น้องประชาชนที่จะต้องรับโครงการนั้นไปอยู่อาศัย
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า นอกจากโครงการใหญ่ในกรุงเทพฯยังมีโครงการในจังหวัดอื่นอีก เช่น ภูเก็ต ที่มีบริษัทนอมินีจำนวนมาก และพบว่าสายไฟไม่ได้คุณภาพที่มาจากประเทศจีน ไม่มีเครื่องหมายการรับประกันมาตรฐาน รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า และอื่นๆ เนื่องจากมีประชาชนร้องมาว่าภายหลังส่งมอบบ้านไปเพียงแค่ 3-6 เดือน ไฟก็ดับทั้งหมด เพราะอายุการใช้งานของอุปกรณ์หมด รวมทั้งท่อน้ำประปา หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ล้วนแล้วแต่มีปัญหาด้านคุณภาพทั้งหมด
“ผมอยากเรียกร้องให้รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึงผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ออกมารับประกัน และเปิดเผยข้อมูลว่า ที่ผ่านมาโครงการก่อสร้างทั้งหมดนั้น มีการจ้างบริษัทจีนกี่แห่ง และคุณภาพในทีโออาร์ ทั้งเรื่องวัสดุอุปกรณ์ หรือเรื่องของเหล็กโครงสร้างต่างๆ ได้มีระบุมาตรฐานไว้หรือไม่”นายณัฐชา กล่าว
นายณัฐชา กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ยังตั้งสังเกตถึงอีกบริษัทหนึ่งคือ ซีอาร์ซีซี ว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เนื่องจากเป็นบริษัทเอกชนที่ได้รับเหมา และเป็นบริษัทของคนจีนเช่นกัน ที่ประกอบธุรกิจด้านการโรงแรมที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ ตลอดจนการก่อสร้างโดยบริษัทกิจการร่วมค้าอื่น ที่ตรวจสอบเก็บข้อมูลเบื้องต้นแล้วพบว่า บริษัทดังกล่าวที่ใช้กิจการร่วมค้าในการประมูลงานรัฐ เมื่อทำงานเสร็จแล้ว ก็จะเปลี่ยนชื่อบริษัทไปเรื่อยๆ เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ดังนั้น ต้องฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีเร่งตรวจสอบกระบวนการดังกล่าวนี้ รวมถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย ที่มีคู่สัญญาเป็นบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ด้วยว่า มีการก่อสร้างในช่วงใดของเส้นทางบ้าง
