ตามคาด “องค์รักษ์พิทักษ์ลุงตู่” ออกโรงหนุนให้เดินหน้าเปิดประเทศภายใน 120 วัน วอนประชาชนเห็นใจ ต้องยอมรับความเสี่ยงบ้าง ถ้ามีผู้ติดเชื้อเพิ่ม เพื่อแลกกับการได้กลับมาทำมาหากินตามปกติ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ย้ำนายกฯพูดชัดจัดหาวัคซีนได้แล้ว 105 ล้านโดส ถือว่าเกินเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษก ศบศ. เปิดเผยว่า วันนี้เชื่อว่าประชาชนจะมั่นใจมากขึ้น เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงโดยละเอียดแล้ว หลังจากที่มีคนบางกลุ่มพยายามบิดเบือน เพื่อสร้างความสับสนให้กับประชาชนมาโดยตลอด วันนี้แผนฉีดวัคซีนให้กับประชาชน มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีสั่งการโดยตรง จึงสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว วันนี้เราเจรจากับผู้ผลิตวัคซีน จำนวน 6 รายแล้ว ได้แก่ ไฟเซอร์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, โมเดิร์นน่า, แอสตร้าเซนเนก้า, ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม โดย นายกรัฐมนตรียืนยันชัดเจนว่า มีการลงนามในสัญญาจอง หรือสัญญาซื้อไปแล้ว 105.5 ล้านโดส ซึ่งถือว่าเกินเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ ดังนั้น เมื่อวัคซีนทยอยส่งมอบมา ก็จะทยอยฉีดทันที คาดว่าไม่เกินเดือนต.ค.นี้ จะสามารถฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนได้อย่างน้อย 50 ล้านคน
นายธนกร กล่าวต่อว่า ตนเห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรี ที่จะให้มีการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้ง โดยตั้งเป้าว่าจะต้องเปิดประเทศทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่า ประชาชนกลุ่มหนึ่งที่เคยมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว แต่วันนี้ไม่สามารถทำมาหากินได้มาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ควรเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาทำมาหากินได้อีกครั้ง โดยเฉพาะที่จะมีการนำร่องที่จังหวัดภูเก็ตนั้น คาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวอย่างแน่นอน ดังนั้น ขอให้ประชาชนเห็นใจด้วยว่า เราจำเป็นต้องยอมรับความเสี่ยงบ้าง ซึ่งอาจจะทำให้มีโอกาสที่จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่รัฐบาลจะดำเนินการด้วยความรอบคอบ ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ทุกคนสามารถกลับมาทำมาหากินกันได้ตามปกติอีกครั้ง และให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เหมือนที่รัฐบาลทำสำเร็จมาแล้วในการระบาดระลอกแรก