“บาทหลวง” บุกสภาฯร้อง “ประธานสภาฯ-ผู้นำฝ่ายค้าน” ค้าน ก.ม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ด้าน “ฝ่ายค้าน” ย้ำรบ.ต้องทบทวนใหม่-ฟังความเห็นรอบด้าน
วันที่ 9 เม.ย.68 ที่รัฐสภา สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ….. หรือร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นตัวแทนรับหนังสือ
บิชอป ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ เลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พระศาสนจักรคาทอลิก มีพันธกิจในการเป็นครูสอนศีลธรรมแก่มนุษยชาติ มีหน้าที่ประกาศหลักการด้านศีลธรรม และเกี่ยวกับระเบียบสังคมทุกเวลาและสถานที่ ด้วยการสั่งสอน อบรม เพื่อประโยชน์ของการดำรงชีวิตอันดีงามของสังคมที่มุ่งไปสู่การพัฒนามนุษย์ทั้งครบ จากการที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการของร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลตระหนักถึงบทบาทในการปกป้องประชาชน ด้วยการออกกฎหมายที่ชอบธรรม เป็นกฎหมายที่สอดคล้องกับศักดิ์ศรีของบุคคลมนุษย์และเป็นไปตามเหตุผลที่ถูกต้อง
สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ขอยืนยันเจตนารมณ์ของพระศาสนจักรคาทอลิก ในการแสดงจุดยืนคัดค้านอย่างหนักแน่น และขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ไปรดทบทวน ยุติ ระงับ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะการอนุญาตให้มีการพนัน และการมีกาสิโน จะนำพาชีวิตผู้คนในสังคมไปสู่ปัญหาเชิงสังคมอีกมากมากมาย การติดพันของประชาชน จะนำไปสู่ปัญหาทางการเงินและหนี้สิน ปัญหาอาชญากรรม การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ การถูกล่อลวง รวมไปถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็ก ๆ และเยาวชน ตลอดจนปัญหาสังคมต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมาอีกมากมายและรุนแรง

สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิก ขอเรียกร้องให้รัฐบาลตระหนักเสมอว่า กิจกรรมทางเศรษกิจและพฤติกรรมทางด้านศีลธรรม มีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนามนุษย์โดยรวม จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสมดุลสอดคล้องกับการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของประชาชน
ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงจุดยืน และแสดงสิทธิทธิการ เป็นพลเมืองผู้ร่วมประเทศ ผู้ปรารถนาเห็นสังคมที่มีความเจริญยั่งยืน และวัฒนาสถาพรสืบไป
จากนั้นสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยกล่าวขอบคุณที่ได้มายื่นหนังสือด้วยความเป็นห่วงเป็นใยกับกฎหมายฉบับนี้ ผู้นำฝ่ายค้านได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เราไม่อยากให้เร่งรีบในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากจะต้องรับฟังทุกองคาพยพในประเทศ ทุกศาสนา ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และผู้ที่ได้รับผลกระทบ

การรับฟังรอบด้านเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างในหลายประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น การสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์และกาสิโนไม่ได้ทำในครั้งเดียวพร้อมกัน มีการพิจารณากฎหมายที่รอบด้าน จึงต้องดูโมเดลในแต่ละประเทศด้วย หรือในสิงคโปร์ที่มีความเคร่งครัดในการใช้กฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ทำได้และจำกัดที่เฉพาะบางแห่ง ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องคำนึงถึงการบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทย รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น จะคุ้มค่าหรือไม่กับการเร่งรัดทำโดยเร็ว
“ฝ่ายข้าราชการประจำมีความกังวลกฎหมายฟาสแทร็กต้องมีการทบทวนใหม่ หลายฝ่ายเป็นห่วงแต่ไม่สามารถต้านทานนโยบายได้“ นายธีรัจชัย ทิ้งท้าย