สภาวุ่น!ส่งท้ายก่อนปิดสมัย “พิเชษฐ์” เดือดไล่ “ณัฐชา” ออกนอกห้องประชุม หลังโวยรมต.เลื่อนตอบกระทู้ปลาหมอคางดำ ตะคอกลั่นบอกรมต.ทำหนังสือถูกต้อง อย่าเอาสีข้างเข้าถู สั่งเข้มให้ตำรวจสภาฯลากออกนอกห้องประชุม หลัง “อัครา” ตอบ 3 กระทู้แต่เมินเรื่องปลาหมออ้างไม่รู้กลัวข้อมูลซ้ำซ้อนกับที่แถลงไปแล้ว
วันที่ 10 เม.ย.2568 ที่รัฐสภา มีการปรุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ระหว่างการพิจารณากระทู้ถามด้วยวาจาเสร็จสิ้น ซึ่งนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้มาตอบกระทู้ จากนั้นกำลังเข้าสู่การพิจารณากระทู้ถามทั่วไป เรื่องความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาปลาหมอสีคางดำ และการจัดสรรงบประมาณเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งถามโดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. กทม. พรรคประชาชน ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยฯมาตอบแทน แต่ก็มีการทำหนังสือขอเลื่อน
ทำให้นายณัฐชา ลุกขึ้นประท้วงว่าวันนี้มีการตั้งกระทู้ถามกระทรวงเกษตรฯ จำนวน 4 กระทู้ แต่ปรากฏว่ากระทู้จาก สส. ฝั่งรัฐบาลได้รับการตอบไปทั้งหมด 3 กระทู้ แต่กระทู้ของตนที่เป็นฝ่ายค้านกลับถูกเลื่อน และตนได้ถามเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกของสมัยประชุมสภาฯนี้ และวันนี้เป็นการประชุมวันสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุม กลับถูกเลื่อนอีก
“เลื่อนแล้วเลื่อนแบบเจ็บช้ำกว่าเพื่อน เพราะเลื่อนแบบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯนั่งอยู่ตรงนี้ แต่ไม่สามารถตอบได้ กระทรวงเกษตรมีรัฐมนตรีถึง 3 คน แต่ผมนับไปนับมามี 4 คน มีรัฐมนตรีสั่งการ 1 คน รัฐมนตรีว่าการ 1 คนและรัฐมนตรีช่วย 2 คน สับเปลี่ยนกันยังไงก็ตอบของผมได้ เลื่อนมา 4 เดือนเต็มจนถึงวันสุดท้ายยังตอบผมไม่ได้ ทั้งๆที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ จึงขอความชอบธรรมความเห็นใจจากประธานด้วย จะเอาอย่างไรดี” นายณัฐชา กล่าว
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะนายณัฐชาได้พูดแล้ว แต่นายณัฐชา ลุกขึ้นสวนทันทีว่าไม่เป็นไรไม่ได้ พูดอย่างเดียวไม่ได้ต้องได้ถามด้วย เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้าย
ทำให้นายพิเชษฐ์ ได้ปิดไมค์นายณัฐชา และหันไปถามนายอัครา ว่ามีธุระต่อหรือไม่ก่อนจะกล่าวว่ารัฐมนตรีบางคนไม่ใช่พหูสูตร มีการแบ่งงานกันดูแลตามสายงาน และแม้ว่านายอัครา จะมาตอบกระทู้แล้ว แต่ไม่ได้รับมอบหมายให้ตอบกระทู้ของนายณัฐชาเรื่องปลาหมอคางดำ เพราะไม่ได้ดูแลสายงานนี้ จึงตอบได้แค่เรื่องที่ถูกมอบหมาย และจะให้ไปตอบในราชกิจจานุเบกษา
แต่นายณัฐชา กล่าวว่า หากยึดหลักการนี้สภาจะเสื่อมทันที และบอกว่ามีสายรายงานจากกระทรวงเกษตรฯ ว่าพอถึงวันพฤหัสบดี ก็จองตั๋วเครื่องบินกันขวักไขว่ รันเวย์แทบทรุด พอเจอกระทู้ถามก็จองตั๋วเครื่องบิน แสดงว่าสภาฯ ไม่มีความหมาย และกว่าจะได้ตั้งกระทู้ถามผู้ช่วยตนต้องต่อแถวตั้งแต่ตี 1 เลื่อนจนนาทีสุดท้ายแล้วมานั่งตาปริบๆ บอกไม่ว่า เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯได้อย่างไร เรื่องนี้เรื่องใหญ่จะบอกไม่รู้ไม่เป็นไม่ทราบไม่ได้ถ้าไม่ตอบกระทู้กันแบบนี้เดี๋ยวก็โดนมาตรา 157 กัน
ด้านนายพิเชษฐ์ ปิดไมค์นายณัฐชาอีกครั้ง ก่อนจะบอกให้พอแล้ว และในหลักการรัฐมนตรีจะมาตอบหรือไม่ จะทำหนังสือแจ้งมา พูดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เสียเวลาสมาชิกคนอื่น และกล่าวต่อว่า รัฐมนตรีบางท่านวางไทม์ไลน์ไว้ ตอบ 3 กระทู้และต้องเดินทางไปตามนัดหมายสำคัญต่อ คิดว่านายณัฐชาน่าจะเข้าใจ มาตอบ 3 กระทู้ก็ถือว่าเยอะแล้วและขอให้นายณัฐชา พอแล้ว
แต่นายณัฐชา จึงลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง ว่า ยิ่งประธานชี้แจงแทนรัฐมนตรี ท่านประธานยิ่งเจ็บ ที่บอกว่าจะเสียเวลาสภาฯ แต่ตอนนี้ยิ่งเสียชื่อประธานสภาฯ ถ้าอย่างนั้นร่างข้อบังคับใหม่เลย ให้เป็นกระทู้ถามในห้องประชุมพรรค จะได้ตอบให้เสร็จในที่ประชุมพรรค หากจะตอบแบบเฉพาะที่ชงกันหวานๆ แล้วกระทู้ของฝ่ายค้านไม่ตอบเลย
ทำให้นายพิเชษฐ์ต้องปิดไมค์ในนายณัฐชาและถามว่าประท้วงเสร็จหรือยัง พร้อมขอให้นั่ง เพราะจะวินิจฉัย แต่นายณัฐชาไม่นั่ง นายพิเชษฐ์จึงถามย้ำว่าจะนั่งหรือไม่ ก่อนจะพยายามอธิบายระเบียบข้อบังคับ ว่ารัฐมนตรีทำหนังสือเลื่อนมาถูกต้อง ตามหลักการ หากจะไปร้องเรียนที่ไหนก็ให้ไป ตนขอทำตามระเบียบ จะไม่อนุญาตให้พูด ซึ่งช่วงนี้นายณัฐชาได้ลุกขึ้นตะโกนเสียงดัง ทำให้นายพิเชษฐ์ต้องตะคอกเสียงดังว่า ไม่อนุญาตให้พูดอีกแล้ว จะไปอ้างอิงที่ไหนก็ไป ทำให้นายณัฐชาพูดสวนโดยไม่ได้เปิดไมค์ ทำให้นายพิเชษฐ์ต้อง เชิญออกนอกห้องประชุม แต่นายณัฐชาไม่ออกทำให้นายพิเชษฐ์เรียกตำรวจสภาเข้ามาในห้องประชุมเอาตัวออกไป ขณะที่นายณัฐชายังคงตะโกนลั่นในห้องประชุม
ทำให้นายพิเชษฐ์หยิบหนังสือขึ้นมาตะคอกกลับไปอีกว่าเขามีหนังสือมา “ไม่ใช่เป็นดาวสภาแล้วจะทำอะไรก็ได้ ผมทำตามหลักการ และขอให้ตำรวจ เจ้าหน้าที่เชิญเอาตัวออกไปเลย เขามีหนังสือมาคุณไม่รู้เรื่องหรือ เอาไปดูสิ หลักการเรามีสภาเราต้องยึดถือข้อบังคับ มันมีหลักการอยู่คุณจะเอาสีข้างมาถูได้ยังไง เขาทำหนังสือมาแล้ว จะไปร้องที่ไหนก็ไป” นายพิเชษฐ์ ตะเพิดไล่ออกห้องประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส.พรรคประชาชน อาทิ นายรังสิมันต์ โรม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรี สส.บัญชีรายชื่อ ช่วยกันประท้วงว่าทำไมไม่ตอบกระทู้ ขณะที่น.ส.รักชนก ศรีนอก สส. กทม. พรรคประชาชน ประท้วงว่าไม่อยากให้ประธานตอบแทนรัฐมนตรี อยากให้รัฐมนตรีชี้แจงเอง ที่มานั่งอยู่ตรงนี้ พร้อมชี้ไปที่นายอัครา ทำไมไม่ลุกขึ้นตอบ จะสละเวลา 30 นาทีเพื่อตอบเพิ่ม ให้ประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องปลาหมอคางดำ ได้ฟังได้หรือไม่ หรือไม่ได้เตรียมข้อมูล มีเหตุติดขัดอันใด ขอให้ชี้แจงว่าเป็นอะไร ที่นั่งอยู่ตั้งแต่เช้าแล้วทำไมตอบไม่ได้ ตนคิดว่ามันตลก
ขณะที่สส. พรรคเพื่อไทยที่ถูกเลื่อนตอบกระทู้ได้ลุกขึ้นพูดว่า ขอให้เข้าใจการทำงานของรัฐมนตรีเพราะถูกเลื่อนเหมือนกัน
สุดท้ายนายอัคราได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า กรณีปลาหมอคางดำได้แถลงข่าวและตอบกระทู้ไปแล้ว และนายกรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณ 98 ล้านบาทในการแก้ไขปัญหา ซึ่งกระทรวงมีแผนการทำงานบูรณาการร่วมกับท้องถิ่นในการกำหนดจุดรับซื้อ ส่วนตัวเข้าใจการทำงานสส.ที่ดูแลผลประโยชน์ประชาชน และที่ไม่ตอบเรื่องนี้เพราะไม่ทราบว่ามีเรื่องปลาหมอคางดำอยู่ด้วย เพราะคณะทำงานเตรียมข้อมูลมาชี้แจง 3 กระทู้ และเรื่องปลาหมอมีการแถลงข่าวชัดเจนไปแล้ว จึงกลัวข้อมูลซ้ำซ้อนกันและขออภัยด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากมีการเจรจากันนายณัฐชาได้ตั้งกระทู้ถามเรื่องดังกล่าวโดยมีนายอัคราเป็นผู้ตอบ ซึ่งในช่วงนี้ได้สลับให้นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ขึ้นมาทำหน้าที่แทน