อดีตสส.ประชาธิปัตย์ชี้ชัด! ศึกเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ แค่เกม “วัดพลัง” ชิงฐานเสียงอนาคต ไม่เกี่ยวปรับ ครม. วิเคราะห์ละเอียดทุกพรรค ทุ่มสุดตัวหวังผลเลือกตั้งใหญ่ปี 70!
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความระบุว่า ผลเลือกตั้งซ่อม ไม่มีผลต่อการปรับครม.
มีการวิเคราะห์ถึงผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต8 นครศรีธรรมราช ว่าจะมีผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรี หรือปรับพรรคร่วมรัฐบาลออกหรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่าการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต8 นครศรีธรรมราช ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพราะผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เพียงที่นั่งเดียว ไม่มีผลต่อการได้เสียของพรรคการเมือง หรือบุคคลใด ถึงขั้นต้องเพิ่ม หรือลดโควตารัฐมนตรี หรือเปลี่ยนแปลงพรรคร่วมรัฐบาลได้
เพราะการเลือกตั้งซ่อมเป็นเพียงครั้งนี้ เป็นเพียงการประลองกำลังของพรรคต่างๆ ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อหวังผลการเลือกตั้งส.ส.ปี 2570 หรือการเลือกตั้วครั้งต่อไปมากกว่า เช่น
1.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม ก็ต้องการรักษาพื้นที่เอาไว้ให้ได้ จึงจำเป็นต้องระดมสรรพกำลังทั้งหมด เพื่อให้ผู้สมัครของพรรคได้รับการเลือกตั้ง หวังจะคุมพื้นที่ภาคใต้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
2.พรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ ก็หวังที่จะปักธงสนามเลือกตั้งภาคใต้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า จึงส่งผู้สมัครในนามพรรค เพื่อชิมลางในพื้นที่เลือกตั้งซ่อมไปก่อน ถ้าประสบความสำเร็จ ก็จะทำให้พรรคมีเครดิตในการเลือกตั้งครั้งต่อไป นักเลือกตั้งแบรนเนม คนมีชื่อเสียงก็จะแห่เข้ามาสังกัดพรรค ทำให้หาตัวผู้สมัครส.ส.ได้ไม่ยาก
3.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมในอดีต หวังจะกู้ศรัทธากลับคืนมา และเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พลาดท่าเสียพื้นที่ให้กับพรรคการเมืองอื่นไปหลายเขต เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อม ถ้าสามารถเอาชัยชนะกลับมาได้ ก็จะเรียกศรัทธากลับมาอีกครั้งหนึ่ง
4.พรรคประชาชน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาปี 2566 ได้รับคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อเป็นอันดับหนึ่งของภาคใต้ และในเขต8 มีฐานเสียงมากถึง 24,245 คะแนน และตอนนี้ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ต้องการวัดความนิยมในพื้นที่ภาคใต้ ที่คนส่วนใหญ่ชอบพรรคฝ่ายค้าน
5.พรรคพร้อมและพรรคทางเลือกใหม่ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่หวังผลเพียงต้องการแนะนำพรรคต่อประชาชน คงไม่ได้คาดหวังถึงผลได้รับการเลือกตั้งมากนัก
การที่พรรคการเมืองต่างๆระดมสรรพกำลัง สาดกระสุนแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย หวังนำชัยชนะในครั้งนี้ เพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่มีผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลในเร็วๆนี้แน่นอน