วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS''ไทยสร้างไทย''เปิดเวทีรับฟังปัญหาธุรกิจร้านอาหาร
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”ไทยสร้างไทย”เปิดเวทีรับฟังปัญหาธุรกิจร้านอาหาร

”ไทยสร้างไทย’’ จัดเวทีเสวนา “ทางรอดร้านอาหาร ที่รัฐบาลต้องฟัง” ห่วง #คนตัวเล็ก หลังพบธุรกิจร้านอาหารปิดตัวลงจำนวนมาก กระทบถึงเกษตรกรที่ส่งวัตถุดิบให้แก่ร้านอาหาร

พรรคไทยสร้างไทยจัดเสวนา  “ทางรอดร้านอาหาร ที่รัฐบาลต้องฟัง”  มีผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร เข้าร่วม อาทิ คุณรณกาจ  ชินสำราญ ร้าน Maguro  คุณเจตุบัญชา  อำรุจิตชัย   ธุรกิจ  ลูกชิ้นจัง , คุณวิน สิงห์พัฒนากกุล จากร้าน Chocolate Ville  คุณอานนท์  เลิศประภาการ  จากร้าน Harry ! s Bistro by  ครัวต้นไม้  และคุณบุญย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ โดยมีคุณฐาปนีย์  เอียดศรีชัยดำเนินรายการ

คุณหญิงสุดารัตน์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้กล่าว วัตถุประสงค์ในการจัดเวทีเสวนาครั้งนี้ ว่าธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจของ #คนตัวเล็ก ที่เป็น SMEs ที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เคยสร้างรายได้ให้ประเทศสูงถึงกว่า 400,000 ล้านบาท มีผู้เกี่ยวข้องหลาย ล้านคน

วันนี้จากสถานการณ์การระบาดโควิด ถึง 3 รอบ ทำให้ธุรกิจร้านอาหารต้องประสบปัญหาวิกฤติ หลายร้านปิดตัวไปแล้ว ที่เหลือกำลังทยอยปิดตัว หากสถานการณ์การระบาดยังยืดเยื้อเช่นนี้ รัฐบาลจึงต้องเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของผู้ประกอบการที่เลือดกำลังไหลออกจนจะหมดตัว ต้องห้ามเลือดและเติมเลือดให้เพิ่มอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ผู้ประกอบการเหล่านี้ จะหมดลมไปก่อน ซึ่งจะมีผลกระทบถึงเกษตรกรผู้ส่งวัตถุดิบป้อนร้านอาหารเหล่านี้อีกมากมาย

คุณรณกาจ ชินสำราญ จากร้าน Maguro กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการพยายามรักษาธุรกิจและพนักงานอย่างเต็มที่มาตั้งแต่การระบาดรอบแรก แต่พอมาถึงรอบที่ 3 ทุนที่มีมาได้ใช้ไปหมดแล้ว กับการต่อสู้ในการระบาด 2 รอบแรก ร้านอาหารส่วนใหญ่แทบจะไม่เหลือ สายป่านแล้ว เพราะนโยบายที่รัฐประกาศมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินทุนหรือเรื่องวัคซีนก็ไม่มีความแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องเงินทุนที่ธุรกิจ SMEs เข้าไม่ถึงซึ่งรัฐบาลควรให้เงินชดเชยแบบให้เปล่าบางส่วน พักชำระหนี้และปล่อยกู้ให้ถึง SMEs จริงๆ เพราะขณะนี้การปล่อยกู้ผ่านธนาคารพาณิชย์ไปไม่ถึงผู้ประกอบการ  อยากให้มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารจะดีกว่า

คุณอานนท์  เลิศประภากร  จากร้าน Harry ! s Bistro by  ครัวต้นไม้   มองว่า  รัฐควรจะมีทางออกมากกว่านี้ ที่ผ่านมาทางร้านไม่ได้ทิ้งใครเลย  ดูแลพนักงานทุกคน  เพราะการเอาคนออกไม่ใช่เรื่องง่าย  แต่ต้องประคับประคองกันไป   ที่สำคัญรัฐไม่ได้คิดที่จะช่วยธุรกิจเลย  ไม่เหมือนกับที่ประเทศอังกฤษ หรือประเทศอเมริกา  ที่เขาให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ โดยเน้นในเรื่องการให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินลงทุน และที่สำคัญรัฐควรจริงจังในการฉีดยาให้กับผู้ที่มีอาชีพบริการ อย่างที่ร้านเร่งพนักงานให้ฉีดวัคซีนให้ครบ  แต่ ณ วันนี้รัฐก็ยังไม่มีความชัดเจนในการฉีด

คุณเจตุบัญชา  อำรุงจิตชัย  ผู้ประกอบการ ธุรกิจแฟรนไชส์ ลูกชิ้น-จัง   บอกว่า ธุรกิจลูกชิ้นที่ทำอยู่นั้นถือว่าเป็นกระเป๋าเงินที่สองของแม่ค้าหรือพ่อค้า ที่ร่วมเป็นแฟรนไชส์กว่า 600 ร้าน เมื่อทุกอย่างหยุดนิ่งไปเป็นปี ไม่มีการเดินทาง ไม่มีการซื้อขาย  เป็นเหตุให้ทุกคนได้รับความยากลำบากไปหมด  การที่รัฐจะเปิดประเทศอีก 120  วันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี  แต่รัฐได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแล้วหรือยัง  เพราะถ้าประชาชนไม่เชื่อมั่น  ก็จะไม่มีการจับจ่ายเงินแน่นอน  แต่ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระทุกอย่าง  “การเปิดร้านใหม่  ต้องมีการปรับปรุง  เมื่อมีการปรับปรุงก็มีค่าใช้จ่าย

ตรงนี้รัฐยังไม่มีมาตรการช่วยผู้ประกอบการเลย ” โดยเฉพาะประเด็นที่ธนาคารพาณิชย์ไม่ปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจ SMEs โดยอ้างว่าผลประกอบการไม่ผ่าน เพราะแทนที่จะพิจารณาจากผลประกอบการในปี 63 ก่อนโควิด กลับใช้ผลประกอบการในปีปัจจุบัน ซึ่งไม่มีใครที่ไม่ขาดทุน ตราบใดที่รัฐบาลยังคุมการระบาดของโรคไม่ได้  จึงไม่ได้รับการสนับสนุนเงินกู้ทุกวันนี้เงินทุนแทบจะหมดกันทุกรายแล้ว จะอยู่รอดถึง 120 วันที่รัฐบาลจะเปิดประเทศกันได้หรือเปล่า

คุณวิน สิงห์พัฒนากกุล จากร้าน Chocolate Ville    กล่าวว่า ขอบคุณที่มีการจัดกิจกรรมในวันนี้   เพื่อให้ผู้ประกอบการมาหารือ เสนอทางออกให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง หรือ ศบค   จะต้องมองผู้ประกอบการด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแหล่งเงินในการช่วยเหลือควรจะจริงจัง “ เพราะว่าถ้าดอกเบี้ยยังเดินอยู่อย่างนี้ผู้ประกอบการก็คงแย่แน่นอน  และที่สำคัญแรงงานและผู้ประกอบการที่ส่งเงินให้ประกันสังคมไป  เงินนั้นไปอยู่ไหน  ทำไม ไม่ช่วยผู้ประกอบการ “ จึงอยากให้มีการพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างจริงจัง

สำหรับคุณบุญย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ จาก BBQ Plazaกล่าวว่าเรื่องวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญ ที่รัฐควรจะสนับสนุนให้พนักงานของร้านอาหารได้รับการฉีดวัคซีนอย่างเร่งด่วนเพราะขณะนี้พนักงานส่วนใหญ่ถูกเลื่อนการฉีดวัคซีนหากยังดำเนินการล่าช้าเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่ง

ผลสรุปของการสัมมนาผู้ประกอบการมีข้อเสนอดังต่อไปนี้

1) ขอให้พนักงานของร้านอาหาร ซึ่งต้องสัมผัสกับลูกค้ามากมาย ได้มีโอกาสฉีดวัคซีนได้ครบอย่างรวดเร็ว

2)ขอให้ผู้ประกอบการทุกรายเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้อย่างแท้จริง โดยรัฐบาลควรจะเข้ามาเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ยอมปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ

3)รัฐควรให้เงินทุนให้เปล่าสนับสนุนผู้ประกอบการให้กลับมาเปิดกิจการได้ โดยเฉพาะเงินช่วยเหลือค่าจ้างพนักงานให้ผู้ประกอบการ เพื่อรักษาธุรกิจและให้ลูกจ้างไม่ต้องตกงาน

4)ขอให้นำเงินประกันสังคมที่ทางนายจ้างและลูกจ้างจ่ายสมทบ ออกมาช่วยลูกจ้างและนายจ้างในช่วงวิกฤติแบบนี้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img