นายกฯ เผยรัฐบาลตั้งทีมพิเศษรับมือผลกระทบ “ทรัมป์” ขึ้นภาษีตั้งแต่ต้นปี 68 เดินหน้าเจรจาลับกับสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของไทย ย้ำ! มีแผนสำรองพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ขอประชาชนมั่นใจ!
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 พ.ค. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” กล่าวถึงมาตรการรับมือกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และได้จัดตั้งทีมที่ปรึกษาพิเศษ ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศ และผู้ที่เข้าใจบริบทของสหรัฐฯ เป็นอย่างดี เพื่อเตรียมความพร้อมและวางแผนรับมืออย่างรอบด้าน โดยได้มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกและนำเข้าจากสหรัฐฯ รวมถึงมาตรการทางภาษีและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้เริ่มการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการกับตัวแทนการค้าของสหรัฐฯ เพื่อทำความเข้าใจถึงความต้องการของสหรัฐฯ และหาแนวทางในการเจรจาต่อรองที่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย โดยเน้นการสร้างความสัมพันธ์แบบ “วิน-วิน” อย่างไรก็ตาม รายละเอียดของการเจรจาบางส่วนจำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ เพื่อรักษาความได้เปรียบในการต่อรองและป้องกันไม่ให้ประเทศอื่นๆ นำไปเปรียบเทียบหรือใช้เป็นข้อต่อรองกับสหรัฐฯ
“การเจรจาลับ” ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่เป็นมารยาททางการทูตที่ทุกประเทศใช้ในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม นางสาวแพทองธาร กล่าว
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลกำลังติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษีของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด และได้เตรียมแผนสำรองไว้มากมาย เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการอัพเดทข้อมูลและประสานงานกับนายชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่อง
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และได้เตรียมความพร้อมอย่างหนักแน่น เพื่อให้การเจรจาต่อรองเป็นไปอย่างราบรื่นและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ” นางสาวแพทองธาร กล่าว