‘พรรณิการ์’ มอง พรรคตั้งเป้าดูด สส.งูเห่า หวังเสียบมท. 1 แทน ‘ภูมิใจไทย’ เป็นเรื่องเกินจริง ลั่น หวังสูงไป ชี้ ปชช.ต้องช่วยกันลงประชาทัณฑ์ให้ถึงที่สุด
วันที่ 15 พ.ค.2568 เวลา 09.45 น.ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) ประสงค์จะย้ายไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม (กธ.) รวมถึงกรณีพรรคกล้าธรรมระบุด้วยว่าจะมีสส.ฝ่านค้านย้ายเข้าไปร่วมกับพรรคอีกจำนวนมาก ว่า การโหมว่ามีอีกหลายคนนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะพรรคกล้าธรรมโหมมากว่า 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อหลังมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งนี้การพยายามจะเปิดตัวสส.ย้ายมาร่วมกับพรรคก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นเรื่องของการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ฉะนั้น เราไม่สามารถแยกเรื่องงูเห่ากับ เสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลได้ เพียงแต่ราคาคุยที่บอกว่ามีจำนวน 20 คน หรือ 30 คน ตอนนี้ก็เห็นชัดแล้วว่ามีน.ส.กฤษฎิ์ แม้จะออกไปแบบเต็มตัวไม่ได้ ขณะนี้พรรคประชาชน (ปชน.) เตรียมโหลไว้เยอะพร้อมสำหรับดองงูเพื่อส่งเสริมสุราก้าวหน้า ส่วนจะมีงูเห่าเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ตนไม่สามารถรับรองแทนพรรคหรือ สส.ได้ว่าจะมีอีกมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่พูดคุยกับทีมจังหวัดชลบุรีและภาคตะวันออกก็ยังถือว่าแน่นหนาอยู่
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าประชาชนทราบดีว่าแม้พรรคปชน.จะมีการกรองคนดีแค่ไหน ซึ่งตนมองว่าพัฒนาจากสมัยพรรคอนาคตใหม่ที่มีงูเห่านับสิบ ตอนนี้มีเพียงแค่ 1 ถือว่ามีพัฒนาการ แต่เมื่อมีกล้วย มีแป้งก็สามารถล่องูโผล่ออกมาจากถ้ำได้ เราก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะมีงูเห่าอีกมาน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าพรรคจะเดินต่อไปได้ และประชาชนเข้าใจ เพราะเรื่องงูเห่ามีปัญหาตั้งแต่รัฐธรรมนูญที่ระบุให้ สส.เมื่อถูกขับออกสามารถย้ายพรรคได้ ถือเป็นการเปิดทางให้มีการซื้องูเห่าโดยเฉพาะ เมื่อรวมถึงเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาลที่มีการชักเข้าชักออกจะทำให้มีคนคิดว่าหากมีการขยายมุ้งก็อาจจะได้เก้าอี้เพิ่ม ตนทราบข่าวมาว่าเขาอยากได้ถึงตำแหน่ง มท.1 ซึ่งอันนี้หวังสูงไปนิด ส่วนการจะซื้องูเห่าให้ได้ถึง 30-40 คนเพื่อมาแทนที่พรรคภูมิใจไทยนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่เกินจริง แต่ที่พรรคกธ.บอกว่าจะได้ สส.ถึง 20 คนนั้น ก็ขอให้รอดูกันต่อว่าจะมาจากไหน ถ้าจะมาจากพรรค ปชน.ถึงหลักสิบ ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นไปได้
เมื่อถามว่า มองการเมืองลักษณะนี้เป็นอย่างไร น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า การเมืองถอยหลังไปกว่า 40 ปีได้ ตั้งแต่ยังมีคำหยาบที่เรียกว่ากะหรี่การเมือง ย้ายพรรคไปย้ายพรรคมา ซึ่งตนมองว่าสิ่งที่ประชาชนต้องช่วยกันประชาทัณฑ์คือเมื่อเราพูดถึงงูเห่าที่หมายถึงคนทรยศ และไม่ได้หมายถึงทรยศต่อพรรคการเมือง แต่หมายถึงทรยศต่อประชาชนที่เลือกมา เพราะกรณีน.ส.กฤษฎิ์ก็ชัดเจนแล้วว่าประชาชนเลือกมา เพราะเป็นพรรคก้าวไกล ประชาชนเลือกมาเพราะพรรค แต่เมื่อถึงเวลากลับบอกว่าอุดมการณ์ไม่ตรงกัน และขอให้พรรคขับออกเพื่อให้ไปอยู่พรรค กธ. อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า น.ส.กฤษฎิ์มีอยู่สองทางเลือกคือ อยู่ให้จบครบเทอม แล้วครั้งหน้าลงเลือกตั้งในนามพรรค กธ. หรือหากอดทนไม่ได้ ร้อนรนไปหมด ก็ขอให้ลาออก ซึ่งก็แฟร์ทั้งคู่ พรรค ปชน.ก็ส่งคนในนามของพรรคปชน.ต่อให้ประชาชนเจ้าของอำนาจตัดสินใจอีกครั้ง แพ้คือแพ้ ชนะคือชนะ แต่ตอนนี้ก็ชัดแล้วว่า น.ส.กฤษฎิ์ไม่ต้องการลาออก เพราะไม่ต้องการเสียสิทธิ์ในการเป็นสส.
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าการที่พรรคกธ.ดึงสส.งูเห่าเช่นนี้ถือเป็นการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า คงไม่ซื้องูเห่า แต่เอาไปดูเล่น เพราะงูเห่าไม่ได้น่ารักอะไร และอีกมุมหนึ่งก็เปลืองแต่แน่นอนแล้วว่าวันนี้ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตอนนี้ก็เหมือนละครหลังข่าว ซึ่งถือเป็นละครตบจูบ แต่ช่วงหลังเหมือนจะตบแรงแล้วไม่มีจูบ โดยภายใต้สถานการณ์แบบนี้ก็เล็งเห็นอยู่แล้วว่าพรรคไหน ถ้าหาเสียงสนับสนุนเสถียรภาพของรัฐบาลก็จะมีอำนาจในการต่อรองมาก ซึ่งต้องยอมรับว่าในยุคนี้มีการซื้องูเห่าเป็นไปอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วสมัยของพรรคอนาคตใหม่การซื้องูเห่า ก่อนหน้านี้ก็ถูกซื้อโดยพรรคภูมิใจไทยเป็นหลัก แต่นายอนุทิน ชาญวีรกุล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ไม่เคยออกมาพูดแบบตรงๆ มีแต่บอกแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่าเขามาเอง
“ในยุคนี้หัวหน้าพรรคกล้าธรรมกลับยกมือตัวเองขึ้นมาดมแล้วบอกว่าเนื้อหอม แสดงให้เห็นว่าใครต่อใครก็อยากย้ายเข้ามา ซึ่งดิฉันมองว่าประชาชนไม่ได้ทานหญ้า ไม่ว่าจะเป็นหญ้าหวานหรือหญ้าอะไรก็ตาม ว่าในการย้ายพรรคกลางเทอมเช่นนี้ แล้วไปพรรคกล้าธรรม ที่ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้เลยว่านโยบายและแนวทางพรรคเป็นอย่างไร ประชาชนคงทราบกันดีอยู่แล้ว” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีที่พรรค กธ.ระบุว่า เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งปี 2570 นั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ตนมองว่าตลก เพราะทุกคนก็รู้กันดีว่างูเห่าไม่ว่าจะสีส้มหรือสีแดงสอบตกเปอร์เซ็นต์จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยสถิติก็บอกแล้วว่าหากคาดหวังการเลือกตั้งครั้งต่อไป งูเห่าไม่สามารถที่จะกลับมาชนะการเลือกตั้งได้ เพราะประชาชนจะลงทัณฑ์อย่างถึงที่สุด