นายกฯนำทีมรัฐมนตรีลงพื้นที่จันทบุรี รับฟังปัญหาเกษตรกรชาวสวนผลไม้ภาคตะวันออก ทั้งต้นทุนการผลิต ราคาผลผลิต และอุปสรรคการส่งออก พร้อมรับข้อเสนอแนะ เร่งรัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการ อำนวยความสะดวกด้านแล็บตรวจทุเรียน ใช้ Soft Power ดันยอดขาย ตั้งเป้า 5 แสนล้านบาท
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 พ.ค.68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี อาทิ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางจากกองบินตำรวจ ท่าแร้ง กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปยังสวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาจากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อเสนอแนะจากตัวแทนเกษตรกรที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งไทยและจีน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกด้านการส่งออก เช่น การมีห้องปฏิบัติการตรวจทุเรียนในพื้นที่ผลิตหลัก เนื่องจากหลายประเทศให้ความสำคัญกับการส่งออกทุเรียนไปยังจีน นอกจากนี้ ยังเสนอให้รัฐบาลใช้พลัง Soft Power ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ชาวไทยอย่าง “ลิซ่า” ในการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทย เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ ตั้งเป้ายอดขายผลไม้ไทยเติบโตจาก 2-3 แสนล้านบาท เป็น 5 แสนล้านบาท พร้อมทั้งขอให้เร่งแก้ไขปัญหาการส่งออกที่ล่าช้าจากตู้สินค้าตกค้างบริเวณหน้าด่าน
ตัวแทนเกษตรกรยังได้ร้องขอความช่วยเหลือในประเด็นปัญหาทุเรียนอ่อนที่ไม่ได้น้ำหนัก และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกกฎระเบียบที่ชัดเจนในเรื่องนี้ รวมถึงแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคเกษตร โดยขอให้เพิ่มอายุการทำงานของแรงงานต่างด้าวและอนุญาตให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ นอกจากนี้ ยังมีการเสนอขออนุมัติงบกลางประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อเยียวยาความเสียหายของสวนทุเรียนและผู้เสียชีวิตจากปัญหาช้างป่า
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบปะกับชาวจันทบุรี และตั้งใจมารับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของชาวสวนอย่างแท้จริง โดยจะนำรายละเอียดเรื่องราคาผลไม้ไปหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมทั้งกล่าวถึงมาตรการที่รัฐบาลได้ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชนในการช่วยรับซื้อผลไม้เพื่อป้องกันปัญหาราคาตกต่ำและผลผลิตเน่าเสีย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิจัยและพัฒนาสินค้าส่งออกของไทย โดยได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
ในส่วนของปัญหาคุณภาพมังคุดและการขนส่งที่ล่าช้า นายกรัฐมนตรีรับปากที่จะเร่งแก้ไขและลดระยะเวลาในการขนส่งให้เหลือน้อยที่สุด พร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีตั้งทีมทำงานเพื่อพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ถึงความต้องการและมาตรฐานคุณภาพผลไม้ที่ชัดเจน รวมถึงการกำหนดราคาที่หลากหลาย
สำหรับประเด็นปัญหาแรงงาน นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณากฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และในส่วนของปัญหาช้างป่า จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษและติดตามการแก้ไขอย่างใกล้ชิด โดยหากมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสามารถแจ้งผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้
ภายหลังการรับฟังปัญหา นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมจุดไลฟ์สดขายทุเรียนของกลุ่ม Young Smart Farmer และรับฟังการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 รวมถึงระบบการควบคุมการปนเปื้อนสารเคมีในทุเรียนเพื่อการส่งออก ก่อนที่จะร่วมปลูกต้นทุเรียน ชมรถพ่นยาในสวน และรับมอบทุเรียนหมอนทองเป็นที่ระลึก พร้อมทั้งทดลองตัดทุเรียนในสวนอีกด้วย