“อนุทิน”ปัดแนวคิดร่นระยะเวลารักษาผู้ป่วยแก้ปัญหาเตียงเต็ม เล็งเพิ่มเตียงที่รพ.บุษราคัมและกระจายผู้ป่วยใช้รพ.ในพื้นที่นอกกรุงเทพฯ ขณะที่’’หมอนิธิ’’ไม่เห็นด้วยล็อคดาวน์กทม. หากจำเป็นต้องปิดขอให้ปิดบางส่วนเท่านั้น
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.64 ที่บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ข้อเสนอของแพทย์ให้ล็อคดาวน์กรุงเทพและห่วงเรื่องการเปิดประเทศว่า ทุกอย่างต้องมีการประเมินก่อน กระทรวงสาธารณสุขจะให้ข้อมูลที่อัพเดท ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยบวก ข้อดีข้อเสีย แล้วนำไปพิจารณาใน ศบค.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณา แต่ยืนยันภายในเดือนนี้จะฉีดวัคซีนได้ครบ 10 ล้านโดส และมีวัคซีนทยอยเข้ามาตามที่เราคาดการณ์ไว้ กระจายวัคซีนไปยังประชาชน รวมถึงวันที่ 1 ก.ค.นี้ จะมีการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เกาะสมุย เกาะพะงัน และทยอยเปิดไปทีละจังหวัดด้วยความระมัดระวัง เราต้องตั้งเป้าแบบนี้ไปก่อน
ส่วนกรณีที่กรมการแพทย์ มีข้อเสนอให้ร่นระยะเวลารักษาตัวของผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลหลังจำนวนเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอนั้น นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดดังกล่าว ทุกอย่างยังเหมือนเดิม กระทรวงสาธารณสุขมีการบริหารจัดการในระบบใหญ่ไม่ได้ดูพื้นที่กรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียว ใช้การบริหารแบบระบบเขตสุขภาพ การช่วยเหลือกันในพื้นที่ปริมณฑล
งงถ้ามองสถานการณ์ในกรุงเทพตอนนี้ถือว่าเตียงมีความแน่น แต่ถ้ามองในมิติทั้งหมดยังสามารถระบายผู้ป่วยไปพื้นที่อื่นได้ และมีผู้ป่วยที่รักษาหายทุกวัน อย่างผู้ป่วยสีเหลืองอาจจะขอเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาลที่อยู่รอบกรุงเทพ หรือ ปริมณฑล และทุกวันมีผู้ป่วยที่รักษาหายออกจากโรงพยาบาล แต่ยอมรับเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ทำงานอย่างหนักเหนื่อย แต่ทุกคนมีความไม่ย่อท้อ ซึ่งต้องขอให้ประชาชนช่วย ด้วยการระมัดระวังตนเอง’’นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้หาเตียงเพิ่มอีก 100 เตียงนั้น เตียงสามารถหาได้อยู่แล้ว อย่างรพ.สนามบุษราคัม ยังสามารถเพิ่มเตียงได้เป็น 5,000 เตียง ซึ่งได้พยายามติดต่อไปยังผู้บริหารเมืองทองธานี เพื่อขอขยายสัญญาที่จะสิ้นสุดในเดือนส.ค. ออกไปอีกสักระยะหนึ่ง ปัจจุบันโรงพยาบาลบุษราคัมมีเตียงอยู่ 2,000 เตียง สามารถขยายเตียงเพิ่มได้เป็น 5,000 เตียง ยังมีเตียงกระดาษที่บริจาคอีก 3,000 เตียง ดังนั้นเรื่องเตียงไม่ใช่ปัญหา สามารถดำเนินการได้ภายใน 5 วัน
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วย กระทรวงสาธารณสุขยังได้หาสถานที่เพิ่มเติม อย่างรพ.ราชวิถี 2 รพ.ธัญญารักษ์ พูดคุยกับกรุงเทพฯ ขอใช้รพ.บางขุนเทียน รวมถึงโรงพยาบาลในพื้นที่เขตบางนา บางบ่อ บางพลี ซึ่งหากพร้อมเมื่อไหร่จะเพิ่มได้ทันที ขออย่าตีตนไปก่อนไข้ เพราะยังมีผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นเพิ่มทุกวัน การไปเสนอข่าวว่าเตียงเต็มไปทั้งหมด มันไม่ใช่
ด้าน ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มองว่า ส่วนตัวมองว่าไม่เห็นด้วยที่ล็อคดาวน์ กทม.7 วันและจะปิดทั้งหมด หากจำเป็นต้องปิด ขอให้ปิดเฉพาะเขตหรือเฉพาะพื้นที่ที่มีการระบาดเท่านั้น แต่ต้องดูความเป็นไปได้ด้วยว่ามีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาการระบาดของโควิด เกิดเป็นจุดเป็นพื้นที่ หากไปปิดหมดจะส่งผลกระทบหนัก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง นอกจากนี้จากการติดตามสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ในไทย รวมทั้งการกระจายวัคซีน มาตรการป้องกันต่างๆ เชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย และดีขึ้นปลายปีหน้า