“ภูมิธรรม” โวรัฐบาลไม่มีปัญหา เมินฝ่ายค้านเตรียม 50 ขุนพลซักฟอกงบฯ 69 แต่ขอวิจารณ์ให้สร้างสรรค์ ยัน “กลาโหม” ปรับตัวรับสถานการณ์โลก
เมื่อวันที่ 24 พ.ค.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 หลังจากพรรคประชาชน (ปชน.) ประกาศเตรียม สส. 50 คน ร่วมอภิปรายและจะช่วยหาเงินโดยการตัดลดงบประมาณส่วนที่ไม่จำเป็นว่า รัฐบาลไม่มีปัญหา ฝ่ายค้านจะเตรียม สส. 50 หรือ 100 คน ก็สามารถดำเนินการได้เต็มที่ เพราะการตรวจสอบเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านอยู่แล้ว เพียงแต่อยากให้เป็นการตรวจสอบอย่างมีเหตุผล หากพบประเด็นใดที่ยังไม่สมบูรณ์ ก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ หรือหากมีข้อเสนอแนะใดๆ ก็สามารถนำเสนอได้ รัฐบาลพร้อมรวบรวมข้อเสนอที่สอดคล้องกับความเป็นจริงและมองการแก้ปัญหาในเชิงสร้างสรรค์ไปพิจารณาปรับปรุง ส่วนการวิจารณ์ที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกหรือเป็นลักษณะทั่วไป รัฐบาลก็รับฟังไว้เป็นข้อพึงสังวรณ์และเป็นอุทาหรณ์ว่ามีประเด็นที่ประชาชนเห็นต่าง
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ต้องการให้การวิจารณ์เป็นไปอย่างเต็มที่และตั้งใจจริง ไม่อยากให้เป็นเพียงการแสดงตามบทบาทของฝ่ายค้าน ซึ่งรัฐบาลเข้าใจดีและไม่ได้มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ รัฐบาลมีความพร้อมในการชี้แจงงบประมาณ เนื่องจากเป็นผลมาจากกระบวนการที่รัฐมนตรีทุกกระทรวง ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงลงไป และจัดทำแผนขึ้นจากประสบการณ์จริง การนำเสนองบประมาณเพื่อให้มีการวิพากษ์วิจารณ์จึงเป็นเรื่องปกติ แต่ขอให้อยู่ในกรอบกติกา
สำหรับกรณีที่กระทรวงกลาโหมมักเป็นเป้าหมายในการถูกตัดงบประมาณ จนส่งผลกระทบต่อปฏิทินการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทดแทนมาโดยตลอดนั้น นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า ในอดีตกระทรวงกลาโหมอาจมีการจัดงบประมาณในรูปแบบเดิม ซึ่งทำให้เกิดมุมมองที่แตกต่างกัน แต่ปัจจุบันมีความเข้าใจร่วมกันในระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแล้วว่า การวางแผนยุทธศาสตร์ในแต่ละช่วงเวลา จำเป็นต้องมีการหารือกันอย่างรอบด้าน เนื่องจากสถานการณ์โลกมีการเปลี่ยนแปลงและมีความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา การปรับเปลี่ยนจึงต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและอาจไม่สามารถเสร็จสิ้นสมบูรณ์ได้ในคราวเดียว
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตนและพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ได้หารือกับผู้บัญชาการเหล่าทัพถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ ความท้าทายรูปแบบใหม่ ภัยธรรมชาติ รวมถึงความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ของโลก และผลกระทบที่เกี่ยวพันกับการค้า ซึ่งมิติความมั่นคงในปัจจุบัน ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงรูปแบบเดิม ทุกฝ่ายมีความเข้าใจในเรื่องนี้ดี ดังนั้นจะมีการปรับปรุงกระบวนการจัดทำงบประมาณให้สอดรับกับสถานการณ์มากขึ้น โดยสนับสนุนให้นำเสนอแผนงบประมาณล่วงหน้า เพื่อให้มีเวลาในการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“เชื่อว่ากระทรวงกลาโหมกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงกระบวนการต่างๆ เพื่อให้สามารถรับใช้ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น และทำหน้าที่ปกป้องประเทศอย่างดีที่สุด ตัวอย่างเช่น ภารกิจด้านการรับมือภัยธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นความรับผิดชอบสำคัญของกระทรวงกลาโหม เนื่องจากมีกำลังพลที่มีความพร้อมและมีระเบียบวินัยเพียงพอในการเข้าแก้ไขปัญหา โดยจะเห็นได้ว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติ กองทัพจะสามารถเข้าให้ความช่วยเหลือได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่ง”นายภูมิธรรม ระบุ