“เพื่อไทย” ให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์”คดีจำนำข้าว ชี้เป็นคดีที่เกิดในช่วงรัฐประหาร พบหลักฐานใหม่การขายข้าว 18.9 ล้านตัน พร้อมใช้ช่องทางตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ มาตรา 75 ขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาใหม่
เมื่อวันที่ 25 พ.ค.68 นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้แถลงถึงจุดยืนของพรรคในคดีโครงการรับจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า พรรคมีความเป็นห่วงและสงสารนางสาวยิ่งลักษณ์อย่างมาก เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงของการปฏิวัติรัฐประหาร และเป็นหนึ่งในเหตุผลของการยึดอำนาจนางสาวยิ่งลักษณ์ในขณะนั้น
นายดนุพร กล่าวว่า แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 10 ปี และนางสาวยิ่งลักษณ์มีทีมกฎหมายต่อสู้คดีมาโดยตลอด เมื่อคดีถึงที่สุด พรรคเพื่อไทยยอมรับในคำตัดสิน แต่ยังคงต้องการใช้ช่องทางกฎหมายที่เหลืออยู่เพื่อต่อสู้คดีนี้ต่อไป “พรรคเพื่อไทยเองเป็นกำลังใจให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ขอเรียนว่าหลังจากที่ตัดสินไปแล้ว มีการสอบถามมายังพรรคค่อนข้างเยอะมาก และเราก็ได้ไปพูดคุยกับฝ่ายกฎหมาย พูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ขอเรียนว่าคดีนี้ยังมีช่องทางที่พอต่อสู้ได้อยู่” นายดนุพร กล่าว
โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุต่อว่า คดีนี้มีการค้นพบหลักฐานใหม่คือการขายข้าว 18.9 ล้านตัน เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิพากษาในคดี เนื่องจากเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นภายหลังการสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว ดังนั้น พรรคจึงมองว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าสู่กระบวนการพิจารณา และจะใช้ช่องทางทางกฎหมายตามมาตรา 75 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดี พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นช่องทางในการขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งชี้ขาดใหม่ได้ภายใน 90 วัน เพื่อต่อสู้คดีต่อไป
ส่วนกรณีที่เฟซบุ๊กของพรรคได้โพสต์ถึงนางสาวยิ่งลักษณ์นั้น นายดนุพร ชี้แจงว่า นโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายหลักที่พรรคใช้ในการหาเสียงเมื่อปี 2554 และชนะการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงเป็นเหตุจำเป็นที่พรรคจะต้องลงโพสต์เพื่อชี้แจงและพูดถึงข้อเท็จจริงของคดีนี้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร
สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เปรียบเทียบคดีจำนำข้าวกับคดีมาตรา 112 และสงสัยว่าเหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงไม่แสดงความเห็นเรื่องนี้ นายดนุพร กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคมจะมีการเปิดประชุมสภาฯ อย่างเป็นทางการ และในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ จะมีการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม จึงไม่อยากให้มีการถกเถียงกันนอกสภาว่าเรื่องใดเป็นการเมืองหรือไม่ ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนการพิจารณากฎหมายในวันที่ 9 กรกฎาคม ก็จะมีการพูดคุยอภิปรายในสภาฯ เพื่อหาข้อสรุปในวันนั้น รวมถึงเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่นักกฎหมายวิเคราะห์ว่าไม่สามารถนำข้าวที่ขายได้มาชดเชยได้ นายดนุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องของศาล ซึ่งพรรคมีช่องทางทางกฎหมายที่เหลืออยู่คือการใช้มาตรา 75 และจะพยายามอย่างเต็มที่ ส่วนศาลจะรับหรือไม่รับ ก็เป็นเรื่องที่ต้องขอความเป็นธรรมต่อไป พร้อมย้ำว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน การตำหนิรัฐบาลจึงทำได้ เราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีวาระ 4 ปี เหลืออีก 2 ปี ก็มีการเลือกตั้งใหม่ หากคิดว่าพรรคทำอะไรไม่ถูกไม่ควรก็สามารถวิจารณ์ได้
