กองทัพบกยันปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นขึ้นศาลโลก-ถอยกำลังลดตึงเครียด รอ JBC แก้ไขตามขั้นตอน
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านช่องบก จ.อุบลราชธานี ภายหลังสมเด็จฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เตรียมเสนอปัญหาขึ้นสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) และอาจส่งต่อให้ศาลโลกพิจารณา ว่า เรื่องดังกล่าวยังถือว่าเป็น “คนละประเด็น” กับสถานการณ์ในพื้นที่ปัจจุบัน
ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายกำลังใช้แนวทางลดความตึงเครียด โดยเฉพาะการ ถอยกำลังออกจากจุดปะทะ เพื่อเปิดทางให้กลไก JBC เข้ามาดำเนินการตามขั้นตอน ทั้งในด้านการปักปันเขตแดน และตรวจสอบข้อตกลงที่เกี่ยวข้องตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ
พล.ต.วินธัย ยังเปิดเผยว่า ผลจากการหารือระหว่าง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกไทย และ ผบ.ทบ.กัมพูชา มีความเห็นตรงกันใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
1.ถอยกำลังออกจากพื้นที่ทับซ้อน
2.หลีกเลี่ยงการปะทะซ้ำ
3.ใช้กลไก JBC เป็นแนวทางหลักในการคลี่คลายปัญหา
ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องว่า ต้องยึดกติกาเดิม ที่เคยใช้ร่วมกัน เช่น ไม่ดัดแปลงภูมิประเทศ ไม่วางกำลังหรืออาวุธในลักษณะเป็นภัยคุกคามต่ออีกฝ่าย โดยเฉพาะในพื้นที่ยังอยู่ระหว่างการจัดทำเขตแดน
ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ภาพพื้นที่อ้างสิทธิ์ผ่านโซเชียลมีเดีย พล.ต.วินธัยระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในจุดที่เกิดเหตุปะทะ เป็นเพียงพื้นที่ใกล้ศาลาตรีมุข ซึ่งจากภาพถ่ายทางอากาศและข้อมูลจากพื้นที่จริง ยืนยันว่า ไม่มีหลักฐานการอยู่อาศัยของทหารหรือชาวบ้าน กัมพูชามาอย่างยาวนาน แต่กลับมีการขุดคูเลตใหม่เมื่อไม่นานนี้ สะท้อนว่าอาจเป็นการดำเนินการล่าสุด ไม่ใช่การครอบครองพื้นที่ต่อเนื่อง 30-40 ปีตามที่อ้าง
“เราจำเป็นต้องรักษากติกาที่เคยตกลงร่วมกัน เพื่อป้องกันความขัดแย้งลุกลาม ก่อนที่จะนำปัญหานี้เข้าสู่กลไกระดับศาลโลก” พล.ต.วินธัย กล่าว