‘สหัสวัต-รักชนก’ เตรียมยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบ ‘สุชาติ’ ปมจัดซื้ออาคาร SKYY9 วงเงิน 7 พันล้านบาท ยืนยัน การตั้งคำถามและการตรวจสอบกระบวนการใช้งบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงทรัพย์สินของประชาชน เป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของผู้แทนราษฎร
วันที่ 3 มิถุนายน 68 นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบกรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดซื้ออาคาร SKYY9 วงเงินประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินการในช่วงที่สุชาติ ชมกลิ่น ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่า จากการรวบรวมข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้อง การอภิปรายในสภาฯ และการทำงานร่วมกับทีมตรวจสอบ พบว่ามีประเด็นที่ควรตั้งข้อสังเกตและตรวจสอบเพิ่มเติมหลายจุด เช่น กระบวนการอนุมัติที่ดำเนินการในช่วงเวลาค่อนข้างเร่งด่วน , ราคาที่จัดซื้อซึ่งอาจสูงเกินกว่าราคาตลาดในพื้นที่ใกล้เคียง , การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะซึ่งอาจยังไม่เพียงพอ และข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนการเสนอขายที่ควรมีการตรวจสอบโดยองค์กรอิสระ
นายสหัสวัตกล่าวว่า การดำเนินการจัดซื้อดังกล่าวเกี่ยวข้องโดยตรงกับ ‘เงินของผู้ประกันตน’ ซึ่งเป็นเงินที่สมทบจากลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น การรักษาพยาบาล การว่างงาน การคลอดบุตร และบำเหน็จบำนาญในวัยเกษียณ ไม่ใช่เพื่อการลงทุนที่อาจขาดความโปร่งใสหรือมีความเสี่ยงต่อความเสียหายของกองทุน
ทั้งนี้ หลังจากที่มีการอภิปรายเรื่องดังกล่าวในรัฐสภา พร้อมการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ สุชาติ ชมกลิ่น ได้ยื่นฟ้องตนและนางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน โดยกล่าวหาว่ามีการหมิ่นประมาทและเรียกร้องค่าเสียหาย 50 ล้านบาท
นายสหัสวัตยืนยันว่า การตั้งคำถามและการตรวจสอบกระบวนการใช้งบประมาณของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงทรัพย์สินของประชาชน เป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของผู้แทนราษฎร และการดำเนินการครั้งนี้มุ่งเน้นเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองหรือเพื่อพุ่งเป้าทำลายใครเป็นการส่วนตัว
“ผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการในทุกขั้นตอน โดยให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดได้รับการพิจารณาจากองค์กรอิสระ และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง” สหัสวัตกล่าว
นายสหัสวัตย้ำว่า ระบบประกันสังคมของไทยกำลังเผชิญปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากหนี้สะสมที่ภาครัฐค้างจ่ายกองทุน และข้อกังวลด้านธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ หากไม่มีการตรวจสอบที่รอบคอบและโปร่งใส อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิทธิของผู้ประกันตนในอนาคต
