“ภูมิธรรม” เผยผลการหารือกับ “รมว.กลาโหมกัมพูชา” ระบุอีกฝ่ายเสนอให้ถอยกลับแนวพื้นที่ตกลงเดิม หวังลดแรงปะทะ ย้ำไทยไม่หวั่นหากต้องเผชิญหน้า แต่ไม่อยากเห็นความสูญเสีย ขอหยุดสร้างกระแสยั่วยุสงคราม ยืนยันความขัดแย้งต้องแก้ด้วยสติ ไม่ใช่อารมณ์
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกับ พล.อ.เตีย เซยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมของกัมพูชา เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า การพูดคุยดังกล่าวจัดขึ้นอย่างระมัดระวัง และเป็นการพบกันครั้งแรก เพื่อหาทางคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนให้เกิดความสงบเรียบร้อย โดยไทยยืนยันจุดยืนไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงหรือสงคราม
“เราไม่ได้หวั่นกลัวหากต้องเกิดเหตุสู้รบ แต่ความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นนั้น ไม่มีใครได้ประโยชน์ เราอยากรักษาความสัมพันธ์ที่มีอยู่และหวังว่าจะสามารถเจรจาแก้ไขกันได้” นายภูมิธรรมกล่าว
สำหรับเนื้อหาการหารือ นายภูมิธรรม เผยว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ส่งข้อเสนอให้ถอยกำลังกลับไปยังจุดที่เคยตกลงไว้ในปี 2024 บริเวณศาลาตรีมุข ซึ่งอยู่ห่างจากจุดปัจจุบันประมาณ 150-200 เมตร ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยืนยันว่า จะไม่ยกระดับประเด็นเข้าสู่ศาลโลก เพราะไม่ยอมรับอำนาจศาลดังกล่าวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503
“เราอยากจำกัดขอบเขตการพูดคุยให้เฉพาะในประเด็นที่เกิดความขัดแย้งเท่านั้น ข้อเสนอของไทยถือว่าเป็นทางออกที่สมเหตุสมผล และทางกัมพูชาเองก็เห็นว่าเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ โดยจะนำเรื่องนี้กลับไปหารือกับนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และสมเด็จฮุน เซน ต่อไป” นายภูมิธรรม กล่าวและว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) ที่กำหนดไว้ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ยังคงเดินหน้าตามเดิม โดยจะมีการนำแผนที่และข้อมูลต่างๆ มาหารือเพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสม
นายภูมิธรรม ยังได้สะท้อนความรู้สึกหลังถูกโจมตีในโซเชียลมีเดียว่าไม่มีศักดิ์ศรีจากการเดินทางไปพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาว่า “การพยายามยั่วยุให้เกิดสงคราม ไม่เคยสร้างประโยชน์ให้ใครเลย แม้เราจะไม่กลัวหากสถานการณ์บีบบังคับ แต่ต้องย้ำว่าสิ่งที่ตามมาคือความสูญเสียของทหารแนวหน้า และประชาชนบริเวณชายแดน ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่เราต้องเลือกเส้นทางของสันติ”
ในส่วนของการวางยุทธศาสตร์และการเตรียมพร้อม นายภูมิธรรมระบุว่า ขณะนี้มีการประสานงานร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยได้สั่งให้ประชุมคณะทำงานชุดเล็กไปแล้ว และจะมีการสรุปเสนอที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 6 มิ.ย. หากมีความคืบหน้าจะนำมาแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป
“ผมขอให้สังคมช่วยกันรักษาบรรยากาศให้เอื้อต่อการแก้ปัญหา เราทุกคนอยากเห็นชายแดนที่สงบ ไม่ใช่สนามรบของการยั่วยุทางการเมือง” นายภูมิธรรมกล่าวทิ้งท้าย