“ก่อแก้ว” แสดงจุดยืนสนับสนุนแนวทางรัฐบาลในการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำบทเรียนเจ็บปวดจากเหตุการณ์ปราสาทเขาพระวิหารในอดีตเตือนใจ การใช้กำลังไม่เคยนำมาซึ่งประโยชน์ใด พร้อมตอกกลับกลุ่มปลุกกระแสชาตินิยมเพื่อหวังผลการเมือง จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.68 พรรคเพื่อไทย ได้แชร์โพสต์แสดงความเห็นของ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนแนวทางสันติภาพของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยระบุว่า “Make LOVE, Not War”
นายก่อแก้ว กล่าวว่า ประเทศไทยเคยสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารให้แก่กัมพูชาเมื่อปี 2505 ซึ่งถือเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดและน่าเสียดายอย่างยิ่ง จึงควรนำมาเตือนใจในการจัดการปัญหาครั้งนี้
นายก่อแก้ว ย้ำว่า แนวทางของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยืนยันว่า “จะไม่ใช้กำลัง ไม่ยื่นข้อพิพาทต่อศาลโลก และเน้นการเจรจาเป็นหลัก” นั้น เป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับเอกสารและหลักฐานที่เคยใช้ในการพิจารณาคดีปราสาทเขาพระวิหารยังมีผลผูกพันต่อไทย ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีหากนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาอีกครั้ง นายก่อแก้ว กล่าวเตือนว่า การใช้กำลังกับประเทศเพื่อนบ้านจะนำไปสู่การสูญเสียทั้งชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความมั่นคงชายแดน และเศรษฐกิจ
“การเจรจาคือแนวทางที่มีเหตุผลที่สุด” นายก่อแก้ว กล่าว พร้อมระบุถึงกลุ่มที่พยายามสร้างกระแสชาตินิยมปลุกปั่นความรุนแรงว่า อาจทำไปเพื่อหวังผลทางการเมืองหรือโค่นล้มรัฐบาล ซึ่ง “จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”
