“อนุสรณ์” ยันอำนาจปรับ ครม. อยู่ที่นายกฯเพียงผู้เดียว ชี้รัฐมนตรีใหม่ต้องพร้อม เพราะความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้ แนะพรรคร่วมฯอย่ายึดติดตำแหน่ง หากอยู่ไม่สบายใจก็มีสิทธิเลือกเป็นฝ่ายค้าน
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.68 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.สัญจร) ที่เดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 23-24 มิ.ย. ณ จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ และอาจรอให้การปรับคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นก่อนว่า
“การจะปรับครม.เมื่อใด เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีโดยตรง ไม่มีใครทราบล่วงหน้าได้ แต่ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในวิจารณญาณของนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ว่าจะมีการปรับหรือไม่ปรับ ครม. การทำงานของรัฐบาลยังคงเดินหน้าได้ รัฐมนตรีชุดปัจจุบันก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้”
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า หากมีการปรับ ครม. ก็ถือเป็นโอกาสที่รัฐบาลจะได้เติมพลังใหม่ให้การทำงาน ด้วยวิธีคิดใหม่ วิธีนำใหม่ เพื่อขับเคลื่อนประเทศในสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทุกคนในรัฐบาลจึงต้องยืนอยู่บนความพร้อมสูงสุด และใช้เวลาที่มีให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด
สำหรับรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่อาจถูกปรับเข้ามา นายอนุสรณ์ ฝากข้อคิดว่า “ต้องมีความพร้อมในการทำงาน เพราะความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้” พร้อมทั้งระบุว่า ปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคต้องบริหารจัดการให้ดี อย่าให้ความขัดแย้งภายในส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลโดยรวม
ในกรณีที่พรรคร่วมบางพรรคอาจไม่พอใจหากมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีหรือกระทรวง นายอนุสรณ์ระบุว่า “หากไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต่อประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาลได้ ก็สามารถตัดสินใจออกไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งถือเป็นวิถีของประชาธิปไตย ทุกตำแหน่งล้วนสามารถทำงานเพื่อประชาชนได้ ไม่จำกัดเฉพาะฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น”
นายอนุสรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าจะเป็น ครม.ชุดเดิมหรือชุดใหม่ เชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะสามารถร่วมกันแก้ไขปัญหาทั้งภายในและภายนอกประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขอให้ทุกฝ่ายมุ่งมั่นทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ.