“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รัชนก”
วันที่ 18 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว
เมื่อถามว่าการขนของออกจากห้องทำงานถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่าเราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้
เมื่อถามต่อว่าต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน นพ.พรหมินทร์ ก็ได้มาในนามพรรคเพื่อไทย ก็ไม่รู้ว่ามาในนามหัวหน้าพรรคหรือในนามใคร พร้อมระบุว่าที่สั่งเก็บของทำไมสื่อรู้เรื่อง หารที่ให้เก็บ เพราะไม่ต้องการให้เสียเวลา แต่ตอนนี้ที่มาทำเนียบรัฐบาล เพราะจะมาเปลี่ยนเสื้อ เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะถือว่ายังเป็นรัฐมนตรีอยู่
เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับนายกฯ ในช่วงของการประชุมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อยู่ที่ท่าน
เมื่อถามต่อว่าจะทำหน้าอย่างไรเมื่อเจอกันระหว่างประชุม นายอนุทิน กล่าวว่า ยกมือไหว้ตามปกติ เหมือนปกติ เพราะส่วนตัวไม่มีอะไร
เมื่อถามย้ำว่าต้องเคลียร์ใจอีกรอบหรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่า ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ เพราะเป็นเรื่องของข้อตกลง และมีเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงไป เขาก็บอกมา ซึ่งเราไม่รับเงื่อนไขที่เปลี่ยนไป และเขาบอกว่านี่เป็นเงื่อนไขสุดท้ายแล้วที่ นพ.พรหมินทร์ มาบอกตนเมื่อวานท่ายใช้คำว่า ’ไพ่ใบสุดท้าย‘ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าต้องตอบภายใน 48 ชั่วโมง เหมือนที่นักข่าวไปเขียน แต่บอกให้คิด 2-3 วัน ตนก็ตอบไปเลย

เมื่อถามย้ำว่าทำไมไม่คุยกับนายกฯ เอง นายอนุทิน ระบุว่า ปกติเมื่อคุยเรื่องนี้ก็คุยผ่าน เลขาฯ พรหมินทร์ และเมื่อวานก็บอกว่ามาเป็นตัวแทน
เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้ไม่สามารถประนีประนอมได้แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเรื่องประนีประนอมอะไร ตอนที่เราได้รับข้อเสนอมามันไม่ใช่เรื่องของการต่อรองอะไร และเราก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปต่อรอง เป็นเรื่องที่ผ่านมาและตกลงกันไปแล้ว
ส่วนเรื่องตำแหน่งต่างๆ ในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย จะต้องออกจากตำแหน่งหรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า ได้คุยกับภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ ก็เผลอไปบอกว่าไม่เป็นไรนะ ก็เป็นรองประธานสภาฯ ถึงแม้จะเป็นฝ่ายค้านก็มีรองประธายสภาฯ คนนึง ทางนายภราดร ก็บอกว่า ไม่ และจะลาออกด้วย โดยจะมาทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตนจึงมองว่าก็ดี จะได้ไม่มีอะไรที่มันคา ถ้าเราไปอยู่อีกฝั่งนึงก็ทำความสะดวกสบายใจ เดี๋ยวหากมีอะไรที่ขัดแย้งก็จะมีคนบอกว่าทำไมไม่ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ ให้หมดไปเลย ถ้าเราไม่อยู่ฝั่งรัฐบาลแล้ว ก็ไปอยู่ฝั่งตรวจสอบเต็มตัว เรื่องนี้ต้องชื่นชมนักการเมืองรุ่นใหม่ เป็นตนยังคิดไม่ได้เลย
เมื่อถามถึงงบ 1.57 แสนล้านบาท ที่ที่ประชุมนโยบายเศรษฐกิจจะพิจารณาเป็นห่วงหรือไม่ หลัง สตง.ได้เตือนเรื่องการใช้งบดังกล่าว นายอนุทิน กล่าว่า ตนไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว สตง.เตือนมาที่อธิบดีฯ และเพิ่งได้รับรายงานเมื่อช่วงเช้า ซึ่งอธิบดีได้รายงานผ่านปลัด หากมีรัฐมนตรีมหาดไทยคนใหม่มาก็คงต้องดู และสั่งการดูแลให้ดี เพราะเดี๋ยวจะไปซ้ำรอยเหมือนจดหมายเตือนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่าเหมือนตอนเตือนโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า มีเรื่องจดหมายเตือนนี้อยู่ พอมีปัญหาขึ้นมาจดหมายเตือนก็จะเป็นตัวชี้ว่าได้มีการเตือนแล้ว และเป็นตัวชี้ความผิดขึ้นมา อันนี้ตนมองว่าดีที่ได้รับการเตือนมาก่อน ใครที่รับผิดชอบก็ระวัง คราวที่แล้วอาจไม่ระวัง คราวนี้ต้องระวังให้มาก คนที่มีหน้าที่ใช้งบประมาณต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างเช่นเมื่อต้นสัปดาห์สำนักงบประมาณก็มีการถอนงบฯน้ำ ดีแล้วต้องขอบคุณหน่วยงานทั้งหลายที่เตือน เราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำอะไรหรอก แต่บางทีอยากจะทำให้ไปถึงประชาชนเร็วๆ แต่ถ้าทำไปแล้วไม่ละเอียดอาจมีปัญหาภายหลังได้ พอมีจดหมายเตือนแบบนี้มาตนเชื่อว่าทุกคนจะใส่ใจและให้ความสนใจในรายละเอียด
ส่วนจะรู้สึกกังวลหรือไม่ที่ ป.ป.ช.ก็รับเรื่องนี้ไว้พิจารณาด้วยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าใช้คำว่ากังวล ระมัดระวัง และทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ให้เป็นไปตามขั้นตอน ตามกฎหมาย มันก็จะไม่มีอะไร นี่เป็นเพียงจดหมายให้ดูแลให้ดีเขาไม่ได้บอกว่าโครงการนี้จะเอาไปโกงหรือเอาไปทำอะไรที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต เบื้องต้นตนยังไม่ได้อ่านรายละเอียดในหนังสือแจ้งเตือน อ่านแค่ใบปะหน้ามา เดี๋ยวจะไปอ่านรายละเอียด
เมื่อถามถึงกรณีที่หันไปเป็นฝ่ายค้านแล้วกฎหมาย กาสิโนภูมิใจไทยผลักดันจะตกที่นั่งลำบากหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดอย่างนั้น เขาจะตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาก็ต้องมีเสียงมากกว่า รัฐบาลใหม่จะตั้งได้ก็ต้องมีเสียงมากกว่าฝ่ายค้าน ไม่มีรัฐบาลไหนที่เสียงไม่มากกว่าฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่าภูมิใจไทยเคยบอกจะหนุนเรื่องกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ พอมาเป็นฝ่ายค้านแล้วยังจะสนับสนุนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
เมื่อถามต่อว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า คนปรามาสเยอะ ภูมิใจไทยไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งในความจริงเคยเป็นแล้วเมื่อปี 2554 แต่ตอนนั้นหัวหน้าชื่อ เชาวรัตน์ แต่ตอนนี้หัวหน้าชื่อ อนุทิน ซึ่งตนชอบการถูกคนปรามาส อย่างตอนนั้นไปเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข คนก็ประมาณว่าจะทำอะไรเป็น เราก็ทำงานได้ กระทรวงสาธารณสุขขึ้นมาติดอันดับ 6 ของโลกได้ ทุกคนก็บอกว่าไม่เคยเป็นฝ่ายค้านจึงมาปรามาส เดี๋ยวตนจะเป็นฝ่ายค้านให้ดู พร้อมพูดหยอกล้อว่าจะไปฝึกกับ “ไอซ์ รัชนก”
เมื่อถามต่อว่าแล้วจะฝึกกับลุงป้อมด้วยหรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า ตอนนี้ลุงป้อมอยู่ต่างประเทศ ซึ่งตนได้หารือกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ และทีมงานของท่านอยู่ ท่านก็บอกว่าไปอยู่ด้วยกัน พร้อมยืนยันสามารถทำงานเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชนได้ อย่างเรื่องตึกเราก็ทำข้อมูลสอดรับกันดี ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน อะไรไม่ถูกต้องเราก็ค้าน ยิ่งถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ขาดได้อย่างสบายใจ พร้อมระบุว่าขณะนี้ยังไม่ได้คุยกับผู้นำฝ่ายค้าน นายนายณัฐพงษ์ เรื่องปัญญาวุฒิ ซึ่งก็รู้จักมา 6 ปีแล้วเห็นกันอยู่ในสภา