”คุณหญิงสุดารัตน์’’เปิดใจภารกิจสำคัญครั้งสุดท้ายทางการเมือง ประกาศตั้ง ”พรรคไทยสร้างไทย”เป็นสะพานเชื่อมคนทุกรุ่น สร้างประเทศไทยที่ดีกว่า ปลดปล่อยคนตัวเล็กจากรัฐราชการที่กดทับ
เมื่อวันที่ 4 ก.ค.64 ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค พร้อมด้วยแกนนำ อาทิ ดร.โภคิณ พลกุล นายพงศกร อรรณนพพร นายวัฒนา เมืองสุข นายต่อพงศ์ ไชยสาส์น น.ต.ศิธา ทิวารี และ สมาชิกพรรคเลือดใหม่ ได้จัดงาน แถลงข่าวภารกิจ และพันธกิจครั้งสำคัญ ของพรรคไทยสร้างไทย ภายใต้ชื่องาน ‘ไทยสร้างไทย เดินหน้าสร้างประเทศไทย’ นอกจากนั้นทางพรรคยังได้จัดให้มีการประชุมผู้บริหารพรรค ตัวแทนสาขา ตัวแทนสมาชิกประจำเขต และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ กว่า 300 เขต ผ่านระบบ Zoom ด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ครั้งสำคัญในการเดินหน้าสร้างประเทศไทย ว่า ปีนี้เป็นปีที่ดิฉันทำงานการเมืองมาครบ 29 ปี ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เห็นประเทศไทย เดินมาถึงจุดตกต่ำ และวิกฤตที่สุด ประชาชนทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส จากการทำงานอย่างไร้ประสิทธิภาพของอำนาจนิยมเผด็จการ จนทำให้วิกฤติโควิดและวิกฤตเศรษฐกิจ สาหัสขึ้นทุกวัน
ผู้คนอดอยาก ธุรกิจจำนวนมากต้องปิดตัว คนตกงานทวีจำนวนมากขึ้นทุกวัน ประชาชนอ่อนล้า อ่อนแรงเกินกว่าที่จะเดินสู้ต่อไปได้แล้ว หมอต้องเลือกว่า จะรักษาใคร จะต้องชี้ให้ใครอยู่ ให้ใครไป เพราะ ICU ไม่พอ ผู้ป่วยจำนวนมากต้องนอนรอเตียง จนตายคาบ้าน ข่าวสะเทือนใจแบบนี้มีให้เราเห็นทุกวันงง
ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวต่อว่า วัคซีนดีๆ ที่ป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ที่กำลังระบาด และคร่าชีวิตคนไทยจำนวนมากอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลก็ไม่ใส่ใจ ไม่ขวนขวายหามาให้ประชาชน แถมยังมีพฤติกรรมไม่สนับสนุน และขัดขวางเอกชนไม่ให้นำเข้าวัคซีนที่มีคุณภาพดีได้อย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ประชาชนเสี่ยงตายไปตามยถากรรม เราและลูกหลานเรา จะอยู่ในประเทศที่ผู้บริหารที่มีหลักคิดแบบอำนาจนิยมเผด็จการ บริหารประเทศตามยถากรรม โดยไม่ใส่ใจประชาชน และทำงานอย่างไร้ประสิทธิภาพต่อไปได้อย่างไร
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยภายใต้ ‘รัฐราชการอำนาจนิยม’ ได้เดินมาถึงจุดที่เป็นอันตรายที่สุดสำหรับประชาชน ทั้งไร้ประสิทธิภาพ สร้างความขัดแย้ง บริหารจนสภาพเศรษฐกิจ และสถานการณ์โควิดเลวร้าย จนทำให้พี่น้องประชาชนจำนวนมากรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง คนรุ่นใหม่บางคนถึงกับประชดว่าไม่อยากอยู่ประเทศนี้อีกต่อไป ซึ่งเราต้องรับฟังและเข้าใจพวกเขา และต้องทำให้พวกเขากลับมามีความหวัง และเห็นอนาคตให้ได้ ตัวดิฉันเองก็มีลูกที่เพิ่งเรียนจบ และอยู่ในวัยทำงาน จึงเข้าใจดีว่า คนรุ่นใหม่เขาคิดและห่วงใยอนาคตของประเทศชาติของเขาเพียงไร
”ดิฉันตั้งใจที่จะทำภารกิจสำคัญครั้งสุดท้ายในชีวิตทางการเมือง ในการก่อตั้ง ‘พรรคไทยสร้างไทย’ เพื่อให้เป็นเครื่องมือที่จะนำประเทศออกจากความตกต่ำและความเลวร้าย นำประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรา ไปสู่ความรุ่งเรือง และนำความผาสุขกลับมาสู่คนไทยอีกครั้งหนึ่ง เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่ดิฉันจะส่งมอบให้คนรุ่นต่อไป ‘มรดกที่มีไม่ได้มีแต่เรื่องราวของอดีต แต่ต้องมีอนาคตด้วย’’
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้ประกาศถึงความตั้งใจที่ตนเองจะทำหน้าที่เป็น ‘เสาเข็ม’ ตั้ง ‘พรรคไทยสร้างไทย’ ให้เป็นสถาบันทางการเมืองของคนไทยทุกคน โดยจะขอทุ่มเทใช้ความรู้ และประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด 29 ปี มาสร้างพรรคไทยสร้างไทยให้เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการทำงานรับใช้ประชาชน เราจะเป็นผู้แสวงหาทางออกให้กับสังคม โดยใช้องค์ความรู้และปัญญา
รวมทั้งขออาสาเป็น ‘นั่งร้าน’ เชิญชวนผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มาร่วมกับพรรคไทยสร้างไทย เพื่อนำความหลากหลายทางความคิด และต่อยอดความถนัดต่างๆ มาร่วมสร้างประเทศไทยของเรา
และท้ายที่สุด ขออาสาเป็น ‘สะพานเชื่อมคนทุกรุ่น’ ทั้งรุ่นใหญ่ที่มากประสบการณ์ มาเป็นเสาหลักทางความคิด กับคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ มีความสามารถ มีความเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ และเห็นโอกาสใหม่ๆ ให้มาร่วมกันสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุด เพื่อพวกเราทุกคน
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้กล่าวถึงเป้าหมายและนโยบายที่สำคัญของพรรคไทยสร้างไทยว่า อยากให้พรรคไทยสร้างไทย เป็นพรรคของคนตัวเล็กทุกคนในประเทศนี้ คนที่มีความคิด มีความสามารถ มีความฝันแต่ยังขาดโอกาส เพราะถูกกดทับจากระบบของ ‘รัฐราชการรวมศูนย์’ ให้เข้ามาร่วมกันใช้พรรคไทยสร้างไทย เป็นเครื่องขยายเสียงให้คนตัวเล็ก ได้มีสิทธิ์ มีเสียง มีโอกาส มีชีวิตที่ดีได้ในสังคมไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่ออีกว่า พรรคไทยสร้างไทย ยังมีนโยบายที่จะสร้างฐานรายได้ใหม่ให้คนไทย ‘บนศักยภาพของประเทศไทย ในบริบทของโลกใหม่’ และ เยาวชนไทยต้องได้เป็น ‘พลเมืองของโลก’ ได้ เพื่อที่จะไปคว้าโอกาสของโลกยุคใหม่มาสร้างอนาคตให้ตัวเอง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำถึงภารกิจครั้งสำคัญนี้ว่า เราต้องนำพาประเทศให้ออกจากความเลวร้ายของ ‘รัฐราชการอำนาจนิยม’ ที่กดทับโอกาสของประชาชน และสร้างความพังพินาศให้กับ ประเทศชาติ จึงต้องมีพรรคการเมืองที่สามารถเป็น ‘ทางออกของประเทศ’ ด้วยเหตุนี้ดิฉันและผู้ร่วมอุดมการณ์จึงได้ก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทยขึ้น เพื่อหวังว่าจะเป็นทางออกของประเทศ
“ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด พวกเราทุกคนต้องจับมือกันก้าวเดินต่อไป แม้จะมีอุปสรรคขวากหนาม หรืออดีตที่เหนียวรั้งเราไว้ ก็ขออย่าหยุดเดิน เมื่อม่านหมอกแห่งความกลัวของเวลาที่มืดมนจางหายไปเมื่อนั้น สิ่งที่เหลืออยู่คือแสงสว่างและอนาคตของพวกเราทุกคน มาร่วมกันสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุด เพื่อส่งมอบให้กับลูกหลานของเรา กับพรรคไทยสร้างไทยด้วยกันนะคะ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว