“ณัฐวุฒิ’’ รับไม่ได้และต้องประณามรัฐบาลสั่งเจ้าหน้าที่ให้ปฎิบัติเกินกว่าเหตุ ไร้น้ำหนักกล่าวผู้ชุมนุมยั่วยุ ยันชุมนุมโดนสันติเตรียมพร้อมนัดหมายแสดงพลังครั้งใหญ่ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์
เมื่อวันที่ 2 ส.ค.64 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าคาร์ม็อบ 1 สิงหาคมคือพลังบริสุทธิ์มหาศาลที่ข้ามพ้นข้อจำกัดโรคระบาด เพื่อแสดงฉันทามติขับไล่พล.อ.ประยุทธ์พ้นตำแหน่งนายกฯ ภาพที่เกิดขึ้นย้ำชัดว่านี่คือสถานการณ์ไล่ประยุทธ์ ถ้าไม่มีโควิดคนจะล้นถนน ทั้งหมดเป็นวาระของประชาชนที่ผู้มีอำนาจต้องตระหนัก
พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งต่อนอกจากแก้ปัญหาเดิมไม่ได้ ยังทำให้ปัญหาใหม่ลงลึกและขยายตัวมากขึ้น การใช้กำลังกับผู้ชุมนุมบางส่วนในช่วงเย็นถึงค่ำคือการเพิ่มเงื่อนไขให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด
การกล่าวอ้างว่ามีการยั่วยุเจ้าหน้าที่ไร้น้ำหนักทันทีเมื่อเห็นการปฏิบัติเกินเหตุ ทั้งยิงจากจุดสูงข่ม ยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง วิ่งเข้าใส่เหมือนเอาให้ตาย ใครขวางต้องเจ็บไม่สนใจว่าเป็นคนค้าขายหรือผ่านไปมา
ท่าทางการยิงเล็งเป้าหวังผล ไม่ได้ยิงขู่ ไม่ใช่กึ่งยิงกึ่งผ่าน แต่ใครผ่านกูยิง
เรื่องแบบนี้ยอมรับไม่ได้และควรประณาม โดยเฉพาะผู้มีอำนาจในรัฐบาลซึ่งสั่งให้ทำได้และจะสั่งให้หยุดก็ได้
สำหรับฝ่ายประชาชนก็มีข้อควรคิด คือชัดขึ้นเรื่อยๆว่ารัฐต้องการสร้างแนวปะทะ การขึ้นที่สูงของกำลังตำรวจพร้อมปืนแก๊สน้ำตา คล้ายเหตุการณ์ปี 2553 ที่ขณะนั้นใช้กำลังทหารอยู่บนตึกกับปืนติดกล้อง
จัดกิจกรรมแต่ละครั้งต้องรัดกุม ชัดเจน เริ่มเมื่อไหร่ ทำอะไรบ้าง และจบคือจบอย่างทรงพลัง การห้อยท้ายของพี่น้องจำนวนหนึ่งในพื้นที่เปราะบางเขาจะหาโอกาสเข้าตี และตีแตกทุกครั้งเพราะประชาชนไม่ได้เตรียมยุทธวิธีมาสู้รบ
ไม่ได้หมายความว่าต้องกลัว แต่ถ้าชนต้องมีความหมายและเตรียมการจนมั่นใจพอว่าชนได้ ในที่นี่หมายถึงตัวแบบการแหกฝ่าแนวกั้นซึ่งหลายครั้งหลายยุคทำได้เพราะมีการวางแผน
เมื่อวานในคลับเฮาส์พอได้ยินว่าพี่น้องบางส่วนจอดทำกิจกรรมหน้าราบ 1 ผมจึงพยายามประสานให้เคลื่อนต่อ เพราะใจห่วงว่าคาร์ม็อบจบแล้วจะไม่จบและเขาจะใช้กำลังสลาย
เข้าใจดีว่าทุกคนเจ็บปวด หลายคนเจ็บแค้น แต่ผมยังยืนยันว่าแนวทางสันติวิธีเท่านั้นที่ชอบธรรมและประชาชนจะชนะได้ แต่สันติวิธีต้องออกแบบ เเค่ไหน อย่างไรต้องเข้าใจตรงกัน เป้าหมายชัด รุกได้ถอยได้เป็นขบวน
ผมคงพูดเยอะเกินไปแล้วแต่ขอให้เข้าใจว่าด้วยรัก ปรารถนาดี ไม่มีเจตนาก้าวก่ายหรือวางตนเหนือกว่า ผมเคยอยู่ท่ามกลางควันปืนคลื่นเลือด รู้ว่าคนพวกนี้อำมหิตเห็นชีวิตคนร่วงหล่นไม่ใยดี
จากนี้ไปทุกอย่างจะแหลมคมมากขึ้น หวังว่าทุกขบวนจะเดินด้วยสติและปัญญาที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ปลอดภัยและสำเร็จ
ส่วนเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) ผมขอเวลาทำงานอีกไม่กี่วันจะกำหนดรูปแบบการเคลื่อนไหว และนัดหมายแสดงพลังครั้งใหญ่ต่อไป
#ไล่ประยุทธ์