วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightแฉขบวนการจ้อง‘ไล่รัฐบาล-ล้มสถาบัน’ ใช้โควิดจัดม็อบท้าทายเพื่อ‘คนบางคน’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แฉขบวนการจ้อง‘ไล่รัฐบาล-ล้มสถาบัน’ ใช้โควิดจัดม็อบท้าทายเพื่อ‘คนบางคน’

“อดีตรองอธิการบดี มธ.” เชื่อขบวนการโจมตีรัฐบาล จัดม็อบท้าทายโควิด จะมีขึ้นเรื่อยๆ ใช้สถานการณ์โควิดเป็นเครื่องมือ “ขับไล่รัฐบาล-ล้มสถาบัน” เพื่อประโยชน์ “ใครบางคน” ชี้ถ้ามีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันและยอดคนตายเพิ่มขึ้น ก็เป็นผลดีต่อจุดหมายของคนกลุ่มนี้

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “เช้าวันนี้ เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่วันนี้เพิ่มขึ้นถึงจำนวนสองหมื่นจนได้ ผู้เสียชีวิตก็มีจำนวนสูงเป็น new high เช่นกัน ในทันที รูปและข้อความที่โพสต์และส่งต่อกันใน social media สำหรับผู้ที่ไม่เอารัฐบาล ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยเช่นกัน ก็คือรัฐบาลเป็นต้นเหตุของสถานการณ์โควิดที่เป็นอยู่ในขณะนี้ และรัฐบาลต้องรับผิดชอบ

ไม่น่าแปลกใจว่า ผู้ที่มีใจเอนเอียงไปในทาง 3 นิ้ว และผู้ที่นิยมระบอบทักษิณ พร้อมเชื่อทันที โดยไม่หันไปดูตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่ และจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมต่อประชากรล้านคน ของประเทศอื่นๆ รวมทั้งประเทศผู้ผลิตวัคซีนเทพทั้ง 2 ยี่ห้อ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับประเทศไทยแต่อย่างใด และไม่ได้คำนึงถึงเชื้อกลายพันธุ์ delta ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในเกือบทุกประเทศทั่วโลก

คงต้องบอกอีกเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนว่า ผมไม่เคยคิดว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมาะจะเป็น หรือควรเป็นนายกรัฐมนตรี และผมไม่ได้เคยเลือกส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และมีความรู้สึกผะอืดผะอมกับรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนี้ แต่การใช้การอนุมานว่า สิ่งที่เป็นอยู้ในขณะนี้ เป็นผลมาจากการบริหารของรัฐบาลชุดนี้ทั้งหมด เป็นการอนุมานที่ไม่เป็นธรรม และดูจะมีความจงใจที่จะโยนความผิดทั้งหมดไปที่รัฐบาล เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตน และพวกของตน

จริงอยู่รัฐบาลอาจตัดสินใจผิดพลาดเรื่องการจัดหาวัคซีน แต่การตัดสินใจแบบนั้น ด้วยข้อมูลที่มีอยู่ และในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในขณะนั้น เป็นที่พอเข้าใจได้ และการที่เราได้วัคซีนเทพคือวัคซีนประเภท mRNA ช้า ก็ไม่ถือเป็นความผิดพลาด เพราะในขณะที่ตัดสินใจไม่วางเงินล่วงหน้ากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนชนิดนี้ ก็เพราะความไม่แน่นอนของผลข้างเคียงในระยะยาว ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่แน่นอน และปัญหาเรื่องการจัดเก็บที่ต้องเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส ซึ่งปัจจุบันปัญหาประการหลังนี้หมดไปแล้ว นอกจากนี้สถานการณ์โควิดของประเทศไทยในขณะนั้น เกือบจะดีที่สุดในโลกด้วยซ้ำ และก็ไม่ใช่ความผิดพลาดที่รัฐบาลตัดสินใจจัดซื้อวัคซีนของจีน เพราะสามารถได้รับของเร็วที่สุด และเป็นที่พิสูจน์แล้วว่า วัคซีนของจีนสามารถลดโอกาสที่ผู้ติดเชื้อจะเกิดอาการรุนแรง และลดโอกาสที่จะเสียชีวิตได้ดีเท่ากัน

cr : FB Harirak Sutabutr

ไม่ใช่ความผิดพลาดเช่นกันที่รัฐบาลให้การสนับสนุนบริษัท Siam Bio Science ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนให้กับบริษัท Astra Zeneca เพราะบริษัท Siam Bio Science มีขีดความสามารถพอ เต็มไปด้วยพนักงานที่มีความรู้ และเป็นบริษัทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงก่อตั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่แสวงหากำไร แต่สิ่งที่สะท้อนความผิดพลาดในขณะนี้คือ เพราะเหตุใดเราจึงได้วัคซีน astra zeneca ไม่เพียงพอ เป็นเพราะประเมินสถานการณ์ผิดพลาดตั้งแต่ปีที่แล้วหรือไม่ เพราะการสั่งซื้อวัคซีนต้องทำข้อตกลงเพื่อจองล่วงหน้าเป็นเวลานาน หรือเป็นเพราะไม่สามารถเจรจาต่อรองกับ บริษัท Astra Zeneca ให้ได้วัคซีนตามเป้า เอกสารที่เป็นหนังสือโต้ตอบระหว่าง Astra Zeneca กับรัฐบาลไทย ที่เขาได้บอกว่าที่เขาจัดสรรให้จำนวนนี้ก็มากกว่าที่ไทยได้ประมาณการไว้แล้ว แต่คำชี้แจงของรัฐบาลไม่ค่อยจะชัดเจนนัก

อย่างไรก็ดี ขณะนี้เราต้องยอมรับและทำใจกันแล้วว่า ไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลอีกกี่รัฐบาล ไม่ว่าจะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีอีกกี่คน วัคซีนยี่ห้อเทพที่ต้องการกันนักหนา นอกเหนือจากที่เขาบริจาคมาให้ ก็ไม่มีทางมาถึงเมืองไทยก่อนไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และมีแนวโน้มว่าเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนรวมกันให้ได้ 100 ล้านโดส ไม่น่าจะทำได้ และต่อให้ทำได้ ด้วยขีดความสามารถของเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์ delta จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเพิ่มขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งเป็นเหมือนกันทั้งโลก

ขบวนการโจมตีรัฐบาล ขบวนการจัดม็อบท้าทายโควิดที่ผ่านมา กำลังจะมีขึ้น และจะมีไปเรื่อยๆ จึงไม่ใช่เป็นการทำเพื่อให้สถานการณ์โควิดดีขึ้น แต่เป็นการใช้สถานการณ์โควิดเป็นเครื่องมือขับไล่รัฐบาล และล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของใครบางคนมากกว่า ยิ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากเท่าใด ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อจุดหมายของกลุ่มคนเหล่านี้เท่านั้น จริงหรือไม่ พวกเขาก็รู้อยู่แก่ใจ”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img