“บช.น.” สรุปผลงานม็อบสามนิ้ว ก่อม็อบ 10 สิงหา เผาทำลาย 2 ป้อมจราจร-ตร.เจ็บ 6 นาย สาหัสหนัก 1 นายถูกยิงด้วยปืน อีก 3 นายถูกสะเก็ดระเบิดที่ม็อบขว้างมา แต่จับผู้กระทำผิดได้แล้ว 6 คน ยึดจยย.ของกลางป่วนเมืองเกือบ 100 คัน จ่อสืบสวนขยายผล จับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
เมื่อวันที่ 11 ส.ค.64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. สรุปเหตุการชุมนุมคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามฝ่าฝืนแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามแยกดินแดง โดยใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขว้างปาด้วยก้อนหิน ก้อนอิฐ ใส่ทรัพย์สินของทางราชการ ตู้จราจรของสน.ดินแดงและตู้บริการประชาชนของสน.พญาไท จำนวนทั้งสิ้น 2 ป้อม การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมมีเจตนาทำให้เกิดความเสียหายซึ่งทรัพย์สินของทางราชการและทรัพย์สินของประชาชนมีเจตนาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติตามหน้าที่ จากพยานหลักฐานที่ปรากฏดังกล่าว จะเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีเจตนามั่วสุมกระทำผิดกฎหมายหลายบทตั้งแต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและความผิดหลายๆ มาตรา ตั้งแต่มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป, ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา 215, การทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา 296, การวางเพลิงเผาทรัพย์และการทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 217 และมาตรา 358 และความผิดอื่นๆ
“การชุมนุมดังกล่าวเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์เข้าที่ต้นขาซ้ายได้รับอันตรายสาหัส ขณะนี้อยู่ระหว่างการผ่าตัดของแพทย์ นอกจากนี้ยังมีตำรวจอีก 3 นายได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดแสวงเครื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุม ตำรวจอีก 1 นาย ถูกพลุเพลิงได้รับบาดเจ็บ ในกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดในที่เกิดเหตุได้ทั้งหมด 6 รายและได้มีการยึดรถจักรยานของกลุ่มผู้กระทำความผิดกว่าร้อยคัน และจะได้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลของตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมด ตลอดจนการดำเนินคดีเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่นำมาใช้ในการก่อเหตุวันนี้ ยืนยันว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลจะดำเนินการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กระทำความผิดกฎหมายทุกราย”พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว
โฆษก บช.น. กล่าวต่อว่า ในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจครั้งนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้ควบคุมการปฏิบัติด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มาประชุมและคอยมอนิเตอร์การปฏิบัติการอย่างใกล้ชิด การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดถือหลักนิติธรรมนิติรัฐเป็นหลัก และปฏิบัติตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการปฏิบัติตามยุทธวิธี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสำหรับตัวผู้ปฏิบัติและตัวผู้ถูกจับกุมด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่า ในการชุมนุมเริ่มมีการใช้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะใช้กระสุนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีมาตรการอย่างไร พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้กระสุนจริง การก่อเหตุของกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่ชุมนุมที่แยกเกียกกาย มีการใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันของกลุ่มการ์ด จากนั้นมีการชุมนุมที่หน้ากองสลากเก่า ก็มีการใช้วัตถุระเบิดขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่และกลุ่มการ์ดด้วยกันได้รับบาดเจ็บ ถ้ามองย้อนไปถึงการชุมนุมที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ จะมีการทะเลาะของกลุ่มการ์ดด้วยเช่นเดียวกัน และมีการใช้อาวุธปืนยิงทำลายซึ่งกันและกัน ภาพเหล่านี้เห็นมาโดยตลอด
“เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการจับกุมยึดของกลางที่เป็นอาวุธนำมาใช้ในการชุมนุมเป็นหนังสติ๊กและลูกแก้วเกือบ 1,000 ลูกจากกลุ่มที่จะเข้ามาชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งแหล่งที่มา เจ้าหน้าที่พอจะทราบตัวผู้บงการและผู้ที่โยงใย เพื่อดำเนินคดีในเร็วๆ นี้”พล.ต.ต.ปิยะ ระบุ