วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightชำแหละ‘สื่อสมัยนี้’เลือกข้างม็อบ3กีบ ‘สื่อสลิ่ม’ต้องแก้ต่างให้ตร.โต้สื่อ3กีบ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ชำแหละ‘สื่อสมัยนี้’เลือกข้างม็อบ3กีบ ‘สื่อสลิ่ม’ต้องแก้ต่างให้ตร.โต้สื่อ3กีบ

“อดีตรองอธิการบดี มธ.” ชำแหละสื่อยุคนี้ เลือกข้างม็อบ 3 กีบ มักมองไม่เห็น “ม็อบทำอะไรรุนแรง-ผิดกม.” ขณะที่ “สื่อสลิ่ม” ต้องคอยแก้ต่างให้ตร. หาข้อมูล-ภาพมาโต้แย้งสื่อ 3 กีบ เชื่อได้รับแรงหนุนจาก “พญาอินทรี” หวังล้มรัฐบาลลุงตู่ เพราะหันไปซื้ออาวุธจากจีนมากขึ้น

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.64 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ยุคนี้สมัยนี้ คงหาสื่อที่ไม่ได้เลือกข้างได้ยากเต็มที ในยามที่มีม็อบเกือบจะรายวัน ปะทะกับตำรวจทุกวัน เผาป้อมเผารถทุกวัน ยื่นข้อเรียกร้องที่ไม่เป็นเหตุเป็นเป็นผลโดยไม่มีความกลัวแม้แต่น้อยว่าจะเป็นคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของโควิด19

ผู้ที่สนใจการเมืองและต้องการรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่ละครั้งที่มีม็อบ หากไม่ออกสังเกตการณ์ด้วยตัวเอง ก็จะต้องติดตามดูการถ่ายทอดสดอย่างใกล้ชิดทุกครั้ง เพราะหากตามดูจากสื่อต่างๆ ในวันรุ่งขึ้น จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข่าวไหนจริง ข่าวไหนปลอม ข่าวไหนกึ่งจริงกึ่งปลอม ข่าวไหนจริงแต่จริงเพียงเสี้ยวเดียว

สื่อที่อยู่ข้างม็อบจะมองไม่เห็นเลยว่า ม็อบทำอะไรที่รุนแรง หรือทำอะไรผิดที่กฎหมาย รายงานข่าวครั้งใด ม็อบก็มีแต่มือเปล่า ชุมนุมโดยสงบ และวิจารณ์ตำรวจว่าใช้ความรุนแรงโดยไม่ปฏิบัติตามหลักสากล เห็นผู้ชุมนุมเป็นศัตรู เป็นฝ่ายตรงข้าม บังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม

เมื่อใดมีตำรวจบาดเจ็บ ไม่เคยรายงาน หากมีคนในม็อบได้รับบาดเจ็บ ต้องรีบรายงาน ยิ่งบาดเจ็บสาหัสยิ่งดี จะได้ทำเป็นข่าวใหญ่ อนุมานไว้ก่อนเลยว่าเป็นฝีมือตำรวจทั้งที่ยังไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ บรรดาสาวก 3 นิ้ว ก็รีบช่วยกันสร้างดราม่า ปั่นกระแสกันอย่างสุดชีวิต

สื่อที่ไม่ได้อยู่ข้างม็อบ หรือพวก 3 นิ้วเรียกว่า “สื่อสลิ่ม” ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่า จึงจำเป็นต้องทำหน้าที่แก้ข่าวให้ตำรวจ พยายามให้ผู้อ่านได้เห็นข้อมูลและภาพทั้ง 2 ด้าน ในแง่นี้ สื่อฝ่ายที่ไม่เอาม็อบ เลยกลายเป็นฝ่ายที่เสนอความจริง เนื่องเพราะจำเป็นต้องแสวงหาภาพและข้อมูลมาโต้แย้งกับสื่อฝ่ายที่อยู่ข้างม็อบนั่นเอง

ม็อบ 16 สิงหา วานนี้ มีความรุนแรงค่อนข้างมาก มีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย เราลองดูว่าสื่อต่างๆ จะรายงานอย่างไรวันนี้ ปรากฏการณ์เช่นนี้ ไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย สื่อในต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน ล้วนเลือกข้าง และพยายามเสนอข่าวที่เป็นคุณแก่ฝ่ายที่ตัวเองเลือก และหลีกเลี่ยงเสนอข่าวที่เป็นลบต่อพวกตัวเอง นี่ไม่ได้พูดถึงสื่อกระจอกงอกง่อย แต่หมายถึงสื่อระดับยักษ์ใหญ่ ที่พอบอกชื่อ ทุกคนต้องรู้จักทั้งสิ้น

เป็นที่น่าสังเกตว่า สื่อในประเทศไทยที่อยู่ข้างม็อบ อยู่ข้าง 3 นิ้ว อยู่ข้างฝ่ายที่ต้องการล้มรัฐบาล และสูงขึ้นไปกว่านั้น ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรจากต่างประเทศโดยเปิดเผย เช่น จาก NED หรือ National Endowment for Democracy, Open Society Foundation, USAID, Freedom House เป็นต้น

ม็อบ 16 สิงหา มวลชนถือดาบ

องค์กรต่างๆ เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับเประเทศสหรัฐอเมริกา Open Society foundation มี George Soros เป็นผู้ก่อตั้ง NED เป็นองค์กรที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา แต่เดิมการให้การสนับสนุนทั้งเงิน และการสนับสนุนแบบอื่นๆให้แก่กลุ่มต่างๆในต่างประเทศเพื่อผลประโยชน์แห่งชาติ หรือ national interest ของสหรัฐอเมริกา จะกระทำอย่างลับๆโดย Central Intelligent Agency หรือ CIA แต่ในสมัยประธานาธิบดี Lyndon B Johnson ต้องการให้เป็นการสนับสนุนอย่างเปิดเผย จึงให้จัดตั้ง NED ขึ้นให้เป็นองค์กรเอกชนเพื่อให้การสนับสนุนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและการเติบโตของสถาบันทางประชาธิปไตยทั่วโลก

ไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อ กระทั่งเป็นไปได้อย่างยิ่ง ที่สหรัฐอเมริกาจะกำลังแทรกแซงการเมืองไทย หากประเทศไทยมีรัฐบาลที่ยืนอยู่ข้างสหรัฐอเมริกา และไม่เอนเอียงไปทางประเทศจีน ก็จะให้การสนับสนุนรัฐบาลอย่างเต็มที่ อย่างที่ได้ให้การสนับสนุนไต้หวัน และเกาหลีใต้ หากรัฐบาลเอนเอียงไปทางจีน สหรัฐอเมริกาก็จะให้การสนับสนุนฝ่ายค้าน หรือใครก็ตามที่มีโอกาสจะเป็นรัฐบาล ให้ได้ขึ้นเป็นรัฐบาลแทน

ในอดีต สหรัฐอเมริกาทำเช่นนี้มาแล้วทั่วโลก ในยุคก่อนการสนับสนุน ทั้งเงินทั้งอาวุธ ให้ทำรัฐประหารล้มรัฐบาลที่ไม่เอื้อต่อผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ก็เคยทำมาแล้วโดย CIA โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศในลาตินอเมริกาหลายต่อหลายประเทศ เช่น ประเทศนิคารากัว เป็นต้น

สำหรับประเทศไทย หนังสือเรื่อง “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเมืองไทยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงสงครามเย็น หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ฝ่าย 3 นิ้วพยายามเผยแพร่อย่างสุดฤทธิ์ บางมหาวิทยาลัย รุ่นพี่บังคับให้รุ่นน้องปี 1 อ่าน และอาจารย์บางคนก็กำหนดให้ลูกศิษย์อ่าน พญาอินทรีในที่นี้ ย่อมหมายถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้นำข้อมูลมายืนยันว่า สหรัฐอเมริกาได้เข้ามาแทรกแซงการเมืองไทยอย่างแข็งขันตั้งแต่ยุคนั้น โดยพยายามสนับสนุนรัฐบาลที่ไม่ให้คบกับจีน หากหันไปคบกับจีน สหรัฐจะไม่พอใจ และอาจหันไปสนับสนุนฝ่ายค้าน หรือกลุ่มที่ไม่เอาจีนแทน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศด่านหน้าที่จะสกัดกั้นระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ไม่ให้เผยแพร่ไปทั่วโลก

ปัจจุบัน นอกจากม็อบฮ่องกงแล้ว ยังน่าสงสัยว่า ที่ประเทศคิวบากำลังมีการประท้วงเพื่อต้องการล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ประเทศสหรัฐอเมริกามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ น่าสังเกตว่า นายกเทศมนตรี (Mayor) เมือง ไมอามี่ ซึ่งอยู่ติดกับคิวบา ถึงกับให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า รัฐบาลสหรัฐควรพิจารณาความเป็นไปได้ ที่จะส่งเครื่องบินรบเข้าไปโจมตีคิวบาเพื่อช่วยฝ่ายผู้ชุมนุมล้มรัฐบาล

ประเทศมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านไทย ที่เพิ่งมีการประท้วง และนายกรัฐมนตรีเพิ่งประกาศลาออก ซึ่งแน่นอนว่าสื่อฝ่าย 3 นิ้ว รีบเล่นข่าวนี้เป็นการใหญ่ เพื่อส่งสัญญานถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

กรณีประเทศมาเลเซีย ก็เป็นที่น่าสงสัยเช่นกันว่า สหรัฐอเมริกาจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เนื่องจากนาย Anwar Ibrahim ผู้นำฝ่ายค้านก็ดูเหมือนจะมีความใกล้ชิดกับ NED พอสมควร

เป็นที่น่าสังเกตว่า สื่อใหญ่สหรัฐอในเมริกา และอังกฤษ มักเสนอข่าวเข้าข้างม็อบในไทย ในขณะที่สำนักข่าวของรัสเซียกลับเสนอภาพที่ม็อบใช้ความรุนแรงกับตำรวจอย่างอย่างชัดเจน

ทั้งหมดนี้ บวกกับข้อเท็จจริงที่ว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ หันไปซื้ออาวุธจากจีนมากกว่าซื้อจากสหรัฐอเมริกา ทำให้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่า สหรัฐอเมริกาอาจเกี่ยวข้องกับความพยายามที่จะเปลี่ยนรัฐบาลชุดนี้

เป็นที่น่าสังเกตเช่นกันว่า คุณธนาธร เมื่อไปสหรัฐอเมริกา ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่สำนักข่าว NBC ยกย่องสหรัฐอเมริกาและแสดงความต้องการให้สหรัฐอเมริกาช่วยสร้างสังคมไทยให้ดีขึ้น และเมื่อก่อนการเลือกตั้ง 2562 คุณธนาธรเสนอความคิดเรื่องการใช้ hyperloop แทนรถไฟความเร็วสูง ซึ่งขณะนั้นรัฐบาลกำลังเจรจากับจีน คุณธนาธรให้ข่าวว่าจะออกเงินเองเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ (feasibility study) ของ hyperloop แต่ไม่มีใครเคยได้เห็นรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ฉบับนั้นแต่อย่างใด เมื่อมีการจัดแถลงข่าวเรื่อง hyperloop คุณธนาธรตอบคำถามนักข่าวต่างชาติว่า รัฐบาลไทยเอนเอียงไปนทางจีนมากเกินไป จึงต้องการให้มีการปรับความสัมพันธ์กับต่างประเทศใหม่ ใช้คำว่า “realign”โดยให้หันไปทางประเทศอื่นเช่น สหรัฐอมเริกาและญี่ปุ่นให้มากขึ้น

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงการวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลที่เป็นจริง และใช้เหตุและผล แต่ความเป็นจริงจะเป็นอย่างไร ยังไม่อาจบอกได้ 100% ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่อย่างไร ก็โปรดใช้วิจารณญานของท่านเองให้ดีที่สุดก็แล้วกัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img