“สุทิน”ชี้จับมือพปชร.ตั้งรบ.ยากเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องมีก๊อก 1-2-3 เชื่อยังอีกยาวไกล ยอมรับจุดยืนแก้รธน.ตรงกันอย่างเดียว
เมื่อวันที่ 29 ส.ค.64 นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือประธานวิปฝ่ายค้านและส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวจับมือกับพลังประชารัฐว่าพูดทำนองนี้กันมานานแล้ว ก็ไม่เคยเห็นมีอะไรเกิดขึ้น ดูแล้ว มันเป็นไปได้ยาก เพราะธรรมชาติ จุดยืนของพลังประชารัฐกับเพื่อไทย มันต่างกัน มันจึงไม่ง่าย แต่หากถามว่ามันเป็นไปได้ไหมมันก็มีเป็นไปได้ แต่มันยาก ยากมาก เพราะสองพรรคนี้มันอยู่กันคนละซีก นี้คือประการสำคัญที่ทำให้เรื่องดีลอะไรมันไม่ง่าย ส่วนที่มีการนำเรื่องที่พลังประชารัฐ กับเพื่อไทยเห็นตรงกันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วบอกว่าเพราะมีดีลจะร่วมกันตั้งรัฐบาล จริงๆมันไม่ใช่ เพราะที่ผ่านมา เพื่อไทย แสดงจุดยืนมาแต่แรกแล้วว่า ต้องการให้แก้ไขรธน.เพื่อให้กลับไปใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ พรรคร่วมฝ่ายค้านอย่าง พรรคก้าวไกลก็เห็นด้วยกับเรามาก่อน แต่ช่วงหลังเขาเปลี่ยนไม่เอาด้วย ส่วนพลังประชารัฐ ก่อนหน้านี้ไม่เอาด้วยเรื่องบัตรสองใบ แต่จู่ๆ พลังประชารัฐ จะเอาบัตรสองใบ มาคิดเหมือนเรา เพื่อไทยเราก็งงกันอยู่เหมือนกันทางเราก็มาคิดได้ว่า วันหนึ่งเขา (พลังประชารัฐ) เคยตัวเล็ก เขาก็คิดแบบคนตัวเล็กที่ใส่เสื้อไซส์ S ก็จะเอาบัตรใบเดียว แต่วันหนึ่งเขาเริ่มตัวโตขึ้นมา แล้วก็คิดว่าเลือกตั้งรอบหน้าเขาจะโตขึ้นก็คิดว่าต้องหาเสื้อไซส์ L มาใส่ เขาก็เลยคิดแบบคนตัวโต มันก็เลยมาเหมือนกับเพื่อไทย ที่เป็นพรรคที่โตใหญ่อยู่แล้ว คนตัวโตเลยคิดจะตัดเสื้อใส่ไซส์เดียวกัน การที่เขาจะเอาบัตรสองใบด้วย มันจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องพัฒนาการของเขา
“ที่บอกสองพรรค เพื่อไทยกับพลังประชารัฐ จะไปจับมือกันตั้งรัฐบาล ผมยังไม่เห็นโอกาสว่ามันจะเป็นไปได้เลย เพราะเงื่อนไขต่างๆ เช่นจะต้องเปลี่ยนนายกฯใหม่หรือไม่ จะเป็นพล.อ.ประยุทธ์คนเดิมแบบนี้ เราจะไปเป็นรัฐบาลร่วมด้วยกันได้ยังไง หรือจะเปลี่ยนตัว ไม่เอาประยุทธ์แล้ว ถามว่าจะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆหรือ มันก็ไม่ง่าย แล้ว ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็ไปคุยกับแกนนำ แล้วไปบอกว่าให้เอาประยุทธ์ออกแล้วเราจะเข้าไปแบบนั้นหรือ ผมว่ามันยาก แล้วหากประยุทธ์ออก แล้วใครจะมาเป็นนายกฯ ก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกัน เพราะมันต้องได้ตัวนายกฯมาก่อน ถึงจะได้พรรคร่วมรัฐบาล ก็ยังไม่รู้ใครจะได้เป็นนายกฯผมว่าเรื่องนี้คนคิดกันไปไกลเกิน มันเป็นไปได้ยาก”นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงหากในอนาคตถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยู่แล้ว เพื่อไทยสามารถจับมือกับพลังประชารัฐตั้งรัฐบาลร่วมกันได้หรือไม่ ประธานวิปฝ่ายค้านจากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ แล้วจะมาตั้งรัฐบาลใหม่ ก็ต้องมาดูว่า คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีเขาอยู่ในแนวประชาธิปไตยหรือไม่ หากยังอยู่ในแนวเผด็จการเหมือนเดิม พรรคเพื่อไทย ก็ต้องคิดหนักและต้องดูไปถึงขั้นนโยบายอีกว่า จะยอมให้เราแก้ปัญหาเศรษฐกิจหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ระดับไหน ซึ่งแค่ด่านแรก ก็เหนื่อยแล้ว แล้วจะเอาใครมาเป็นนายกฯแทนพล.อ.ประยุทธ์ สมมุติเป็นคนอื่น เป็นคนกลางที่สังคมยอมรับ แล้วดูว่ามีศักยภาพจริง เพราะเราไม่อยากเข้าไปแล้วล้มเหลว เพราะหากเราคิดจะเป็นรัฐบาลในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนสภาฯชุดนี้หมดสมัยมันก็ต้องคิดว่าหากเราเข้าไปแล้วสามารถไปแก้วิกฤตได้จริงๆ ถ้าเข้าไปแล้ว ทำไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปทำไม ก็รอเลือกตั้งคราวหน้าก็ได้ ผมถึงบอกว่าไม่ง่ายๆ
เมื่อถามต่อไปว่า หากว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่อยู่แล้ว และมีการหาคนอื่นมาเป็นนายกฯ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ แล้วหากมีความพยายามเอานายกฯคนนอกเข้ามา เพื่อไทย จะเอาด้วยหรือไม่นายสุทิน กล่าวว่า ถ้ามาตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราคิดว่ามันไม่ดีหรอก แต่ว่า ณ สถานการณ์วิกฤตอย่างนี้ มันไม่มีอะไรดีกว่าการยึดกติกาไว้ก่อน ถ้ามาตามกติกา ก๊อกแรกไม่ได้ มาเป็นก๊อกสอง แต่คนที่จะมาจากก๊อกสอง ก็ต้องมาดูอีก ว่าวิธีคิด ทิศทาง เขาจะนำประเทศไปทางไหน ถ้าไปในทางเผด็จการ ไปทางที่ตรงข้ามประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทย ไม่มีทางเอาด้วยอยู่แล้ว