วันพุธ, มิถุนายน 26, 2024
หน้าแรกNEWS"กก." ขู่"ประยุทธ์-อนุทิน"เตรียมขึ้นศาลปชช.ตัดสิน ย้ำซิโนแวคกันเดลต้าไม่ได้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“กก.” ขู่”ประยุทธ์-อนุทิน”เตรียมขึ้นศาลปชช.ตัดสิน ย้ำซิโนแวคกันเดลต้าไม่ได้

“วาโย” ยกผลศษ.–หมอสับ”ประยุทธ์” ซิโนแวคกันเดลต้าไม่ได้ ชี้ความผิดสำเร็จ อัด”อนุทิน”ปัดความรับผิดชอบ เตรียมตัวเข้าสู่ศาลปชช.ตัดสิน

วันที่ 1 ก.ย.64 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภา เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อมานพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า ข้อกล่าวหาของตนสั้นๆ ง่ายๆ คือกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข สั่งซื้อวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอกับสถานการณ์ ซื้อของที่ใช้ไม่ได้ ณ เวลาที่รู้อยู่แล้วว่าใช้ไม่ได้ ตนจะไล่เรียง 4 คำถาม คือ.1.วัคซีนชนิดเชื้อตายมีประสิทธิภาพป้องกันสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดหลักในประเทศเพียงใด ซึ่งจากวารสารวิชาการระดับโลก Nature Renews Immunology เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่าวัคซีนซิโนแวคซึ่งเป็นเชื้อตายนั้น รายงานวารสารระดับโลกไม่มีรายงานว่าสามารถรับมือหรือต่อกรกับสายพันธุ์เดลต้าได้ และจากการศึกษาในประเทศไทยเผยแพร่ 14 ก.ค. ศึกษาโดยคณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล คณะแพทยศาสตร์ รามาฯ และกระทรวงสาธารณสุข ผลการศึกษาระบุว่าคนที่หายจากการติดเชื้อโควิดปีนี้ มีความสามารถต่อกรกับเชื้อเดลตาได้ถึง 93.33% แต่เมื่อเป็นวัคซีนซิโนแวคต่อกรกับเชื้ออยู่ที่ 48.33% ซึ่งองค์การอนามัยโลกรับรองคุณภาพว่าต้องอยู่ที่ 50% ขณะที่ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีศิริราช ระบุในคลับเฮาส์เมื่อ 16 ก.ค.ว่าไม่ควรสั่งซื้อซิโนแวคอีกแล้ว ดังนั้นถ้าท่านไม่เชื่อวารสารระดับโลก หรือการศึกษาของไทย ก็ควรเชื่อผู้เชี่ยวชาญบ้าง ทั้งนี้ ทุกฝ่ายรวมทั้ง ศบค.เห็นตรงกันว่าซิโนแวคสองเข็มไม่พอแล้ว ต้องได้ชนิดอื่นเพิ่มเพื่อเป็นบูสเตอร์ซึ่งเป็น mRNA หรือไวรัลเวคเตอร์ ส่วนคนที่ฉีดซิโนแวคเข็มแรก ถามว่ายังจะดึงดันปักซิโนแวคลงแขนเป็นครั้งที่สองเพื่อให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการแพ้ ผลข้างเคียงโดยไม่จำเป็น ผิดจริยธรรมทางการแพทย์ ส่อผิดอาญาฐานทำร้ายร่างกายด้วย

ส.ส.ก้าวไกล กล่าวว่า ศบค.มีมติซื้อซิโนแวคเพิ่ม 12 ล้านโดสเมื่อ 16 ส.ค. พอประชาวิจารณ์เยอะก็ชี้แจงว่าโดยอ้างว่าต้องซื้อมาถมเพิ่มจากแอสตราเซเนกาที่ได้เพียง 5 ล้านโดสต่อเดือน และต้องฉีดไขว้เพื่อประสิทธิภาพ จากนั้นวันที่ 19 ส.ค.ศิริราชประกาศผลการศึกษาดังกล่าวออกมา ขณะที่อาจารย์หมอระบุว่าไม่ควรสั่งซิโนแวคอีกแล้ว เท่ากับว่าความผิดสำเร็จแล้ว ที่สำคัญสุดคือข้อมูลของการฉีดไขว้ที่จะปลอดภัยนั้นจนบัดนี้ก็ยังไม่มี ขณะที่สายพันธุ์เดลต้าระบาดหลัดตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มิ.ย.- ก.ค.แต่รัฐบาลก็ยังดึงดันสั่งซื้อวัคซีนเชื้อตายอยู่ โดย 6 ก.ค.ซื้อซิโนแวค 10.9 ล้านโดส และวันที่ 16 ส.ค.ซื้ออีก 12 ล้านโดส

นพ.วาโย กล่าวอีกว่า ขณะที่นายอนุทินเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่เกี่ยวข้องจัดซื้อวัคซีน ฝ่ายแพทย์ลงนามทุกขั้นตอน แต่เมื่อคำสั่งเมื่อวันที่ 27 เม.ย.นายกฯ ออกประกาศยึดอำนาจรัฐมนตรี 31 ฉบับ ซึ่ง 13 ฉบับเป็นของ รมว.สาธารณสุข จากนั้นนายกฯ แยบคายมากโดยทอนคืนอำนาจไปโดยบอร์ดชุดต่างๆ ยังปฏิบัติหน้าตามที่ปกติ เว้นแต่นายกฯ จะขอเข้ามาทำเอง โดยหลักอำนาจของรัฐมนตรียังอยู่ และให้หน่วยงานต่างๆ รายงานเรื่องต่างๆ โดยตรงกับนายกฯ เช่น เวชภัณฑ์ ยา เตียง โรงพยาบาลสนาม เป็นต้น ซึ่งเป็นอำนาจของรัฐมนตรี ส่วนการจัดสรรวัคซีนยังเป็นของรัฐมนตรีตาม พ.ร.บ.องค์การเภสัชกรรม มาตรา 5 รวมถึงมาตรา 18 พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนซึ่งนายกฯ เป็นประธานบอร์ด มี รมว.สาธารณสุขก็เป็นรองประธานบอร์ด มีหน้าที่ผลิต บริหาร จัดการ การจัดหาและกระจายวัคซีน ที่สำคัญมีอำนาจจำกัดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนได้ ดังนั้นรัฐมนตรีจะอ้างว่าไม่รู้และปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ถือว่าขัดมาตรา 42 พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรมฯ ที่ต้องป้องกัน ควบคุม รักษาโรคภัย

ส.ส.ก้าวไกล กล่าวว่า เมื่อท่านเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ซื้อแต่กลับทุจริตและสร้างความเสียหายแก่รัฐ ก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ประกอบมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งท่านต้องรู้ว่าวัคซีนชนิดเชื้อตายที่ชื่อโคโรนาแวค ผลิตโดยบ.ซิโนแวค ขอยืนยันว่าไม่ได้โจมตีหรือด้อยค่า แต่ข้อมูลมันบอกว่าใช้ไม่ได้ ความปลอดภัยการฉีดไขว้ก็ไม่มี แต่กลับเอาคนไทยเป็นหนูทดลอง เคยบอกว่าจะไม่ให้คนไทยเป็นหนูทดลอง นายกฯและรมว.สาธารณสุข มีหน้าที่และอำนาจดูแลสุขภาพประชาชนในการจัดซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ แต่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยที่ท่านรู้หรือว่าควรรู้อยู่แล้วเนื่องจากมีคณะกรรมการและอาจารย์ต่างๆ รายล้อมรอบตัว ท่านย่อมเล็งเห็นผลว่าสิ่งที่ทำนั้นทำให้คนเสียชีวิต สุดท้ายวันนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนเชื่อว่าวันลงมติท่านคงไม่ได้รับความไว้วางใจ

“วันนี้ไม่ใช่ศาลยุติธรรม แต่ผมเชื่อว่าข้อมูลต่างๆที่ปรากฏนั้น ประชาชนทุกคนเห็นและท้ายที่สุดท่านอาจไม่ต้องก้าวขึ้นสู่ศาลยุติธรรม แต่ท่านก้าวสู่ศาลประชาชนแล้ว โดยประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินผิดบาปของท่าน ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่สามารถลงมติไว้วางใจนายกฯ และรมว.สาธารณสุขได้” นพ.วาโย กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img