“สมศักดิ์” ยันยังไม่ปรับโครงสร้างพปชร. ปัดพรรคแค่ความเห็นไม่ตรงกัน นำนโยบายเข้าถึงปชช.
วันที่ 14 ก.ย.64 ที่ทำเนีย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับโครงสร้างภายในพรรค พปชร. ว่า ถ้าฟังจากผู้บริหารยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ แสดงว่าไม่มีการปรับอะไรทั้งสิ้น คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งแล้วค่อยพูดคุยกัน เพราะยังเป็นเรื่องใหม่ ส่วนเรื่องที่พูดคุยกันเป็นเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เช่น ฝนตก น้ำท่วม หรือแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจน เป็นต้น ทั้งนี้ อย่าไปคิดอะไรที่เลยเถิด ไม่มีอะไร เป็นไปตามปกติ ให้คิดถึงเรื่องของประชาชน เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเรื่องพรรคเป็นเรื่องรองลงไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ของพรรคจะเรียกร้องให้ นายกฯ กระชับมิตร กับส.ส.มากขึ้นหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีระยะห่างกับพรรค รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ส.ส.มีการเรียกร้องอย่างนั้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่สามารถไปบอกหรือไปกดดันอะไร อยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละท่านที่มีชื่อถูกเรียกร้องให้เข้ามาช่วยดูแลในพรรค แต่คงไม่สามารถไปกดดันท่านได้ แต่ถ้าท่านมาก็ดี
เมื่อถามว่า มีสัญญาณการเปลี่ยนเลขาธิการพรรคพปชร. หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ไม่มีครับ เลขาฯยังไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร คงยังเหมือนเดิมอยู่”
เมื่อถามว่า เมื่อไหร่จะกลับไปใช้ที่ทำการพรรค ถนนรัชดาภิเษก ในการประชุมพรรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องกลับไปแน่ แต่ไม่ทราบเมื่อไหร่ ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรจะปิดสมัยประชุมพอดี คงไม่ต้องรีบร้อนอะไร
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นหนึ่งในแกนนำพรรคพปชร. จะทำอย่างไรให้ภาพของพรรคออกมาไม่แตกแยก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า มีความระหองระแหงกันบ้างในเรื่องของการนำนโยบายจากพรรคไปดำเนินการ เราก็ต้องถกเถียงกันระหว่าง ส.ส.กับผู้บริหารของพรรค โดยเราคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนไม่รู้สึกว่าห่างไกลกับเรา
เมื่อถามว่าหมายถึงการเตรียมการรองรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้าใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าเราจะไปเตรียมตอนที่หมดเวลาไปแล้วคงจะไม่มีประโยชน์อะไร แต่วันนี้เรามีเวลาอีก 1 ปีครึ่ง ถ้าเราทำอะไรที่เป็นรูปธรรม ประชาชนเขาจะมองเห็นว่า หลังจากที่โควิดเบาบางลง รัฐบาลเตรียมที่จะขับเคลื่อนหลายอย่าง แต่การที่รัฐบาลจะขับเคลื่อนได้พรรคจะต้องเป็นผู้คิด และสนับสนุนให้เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรค พปชร. จะยังเป็นพรรคใหญ่ในการขับเคลื่อนการเลือกตั้ง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องเชื่อสิ เราจึงคิดถึงนโยบายว่าเราจะทำอะไร ถ้าผ่านโควิดไปแล้วต้องเข้าสู่โหมดเร่งรัดให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น มีเงินใช้หนี้ และมีเงินใช้จ่าย เพราะฉะนั้นในการประชุมพรรคคงพูดถึงเรื่องกฎหมายที่จะเข้าสู่สภาฯ เพราะรัฐมนตรีของพรรคมีกฎหมายหลายฉบับที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ส่วนการปรับครม. เป็นอำนาจของนายกฯ เราคงไปพูดอะไรไม่ได้ และไม่ควรพูด ขณะนี้ยังมีเวลาอีกมากมายในการพิจารณา
