วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS"เจี๊ยบ" แสบพูดการศึกษาโยงเหน็บ "บิ๊กตู่" คฝ.ขาดการปลูกฝังสิทธิมนุษยชน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เจี๊ยบ” แสบพูดการศึกษาโยงเหน็บ “บิ๊กตู่” คฝ.ขาดการปลูกฝังสิทธิมนุษยชน

“ก้าวไก”ค้านร่างพ.ร.บ.ศึกษา “วิโรจน์” อัด หยุดเอาโจทย์ในอดีตมาบงการคนเกิดทีหลัง ขณะที่ “อมรัตน์” แสบพูดโยง “บิ๊กตู่” คฝ.ถ้ามีการอบรมมากกว่านี้จะไม่โหดร้ายกับม็อบ

วันที่ 17 ก.ย. 64 ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ เนื้อหากฎหมายมีทั้งสิ้น 110 มาตรา
ต่อมา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า การศึกษายุคปัจจุบันต้องไม่ใช่กะบวนการที่จะสร้างใครให้เป็นแรงงานเพื่อไปรับใช้ใครอีกต่อไป ยุคนี้เขาเลิกถมกันแล้วว่าโตขึ้นอยากขึ้นอะไร เพราะเราไม่รู้ว่าอีก 10-20 ปี ข้างหน้า อาชีพที่มีอยู่ในปัจจุบันจะยังคงมีอยู่ไหม จะเกิดอาชีพใหม่ๆอะไรขึ้นบ้าง การศึกษาจึงไม่ใช่การเอาโจทย์ในอดีตมาบงการคนที่เกิดทีหลัง เพราะแบบนี้ไม่ใช่ระบบการศึกษา แต่เป็นกระบวนกาผลิตก้อนอิฐที่หายใจได้ เพื่อนำไปก่อเป็นกำแพงที่ทานกระแสโลก ซึ่งทานอย่างไรก็ทานไม่สำเร็จ ทั้งนี้ สิ่งที่สังคมอยากเห็นใน พ.ร.บ.การศึกษาฉบับนี้ที่เป็นกลไกในการพัฒนาคน การศึกษาไม่ควรเป็นระบบแพ้คัดออก ที่เป็นการสร้างเงื่อนไขในการจำกัดโอกาสในการเรียนของคนที่อยากเรียน เราอยากเห็นการศึกษาที่โอบรัดความแตกต่างหลากหลาย การกระจายอำนาจให้กับโรงเรียน โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ แต่ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ กลับจับจดอยู่ที่การรวมศูนย์อำนาจไว้ที่คณะกรรมการนโยบายการศึกษาแห่งชาติ ทำไมต้องพยายามเอากะลามาครอบประเทศนี้ให้ได้ เราอยากเห็นการศึกษาที่เข้าใจธรรมชาติการเรียนรู้ของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน เราอยากเห็นการศึกษาที่โอบรับเด็กพิเศษ และเด็กกำพร้าทุกคน

“เราอยากเห็นการศึกษาที่มุ่งพัฒนาเด็ก ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะอยู่ในรั้ว หรือนอกรั้วโรงเรียน เราอยากเห็นการศึกษาที่ให้เด็กไทยมีความคิดสร้างสรรค์ ปัญหาการศึกษาไม่ใช่อยู่เพียงแค่ที่นโยบาย ต่อให้เราปรับหลักสูตรผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาก็ไม่เกิด สิ่งที่เราอยากเห็นทั้งหมดนี้ เรายังไม่เห็นความชัดเจนในพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับนี้ ผมจึงไม่อาจยอมรับร่างพ.ร.บ.การศึกษาฉบับนี้ได้”นายวิโรจน์ กล่าว

ด้านนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เราจำเป็นต้องพัฒนาระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับโลกสมัยใหม่จึงจำเป็นจะต้องหยุดการศึกษาที่ให้เยาวชนเน้นแต่ท่องจำค่านิยม 12 ประการ และเรามีความจำเป็นจะต้องให้เยาวชนเน้นความรู้ความเข้าใจเรื่องสิทธิพลเมือง และสิทธิมนุษยชนให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น และให้ตระหนักในความเสมอภาคเท่าเทียมของมนุษย์ ดังนั้นระบบการศึกษาไทยจะไม่ล้มเหลวได้อย่างไร เพราะมีการเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการบ่อยที่สุดในโลกและ 30 ปีที่ผ่านมา เรามีรัฐมนตรี 34 คน เราได้ยินคำว่าปฎิรูปเต็มไปหมด ไม่ว่าจะปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูการศึกษา ดังนั้นการศึกษาไม่ใช่เพียงแค่ให้อ่านออกเขียนได้ แต่ต้องสอนให้คิดเลิกท่องจำและปรับปรุงหลักสูตรให้มีความกระชับ มีความยืดหยุ่น เน้นทักษะการสื่อสาร ทำงานเป็นทีมเวิร์ค เพื่อออกสู่โลกของการทำงานได้ รวมทั้งทักษะทางอารมณ์ ทักษะในการฝึกตั้งคำถาม ที่สำคัญต้องเน้นให้รู้จักหน้าที่พลเมือง เพื่อเป็นพลเมืองโลกที่สง่างาม

“ถ้าคฝ. ปัจจุบันที่ออกมาควบคุมฝูงชน ออกมาสลายม็อบ ถ้ามีการปลูกฝังเรื่องการศึกษา เรื่องสิทธิมนุษยชนมากกว่านี้ ก็คงจะไม่มีปัญาการทำทารุณโหดร้าย ยิ่งประธานคณะกรรมการนโยบายนี้ เป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ดิฉันได้ยินชื่อก็สิ้นหวัง เพราะเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง รับแต่ความชอบไม่เคยรับผิด และยังมีประวัติเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ในอำนาจโดยไม่แยแสต่อความสง่างามของการดำรงตำแหน่ง ดังนั้นขอให้ทบทวนชื่อประธานคณะกรรมการนโยบาย หาคนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่านี้” นางอมรัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พอนางอมรัตน์พูดถึงชื่อนายกฯ มีเสียงจากสมาชิกประท้วง แต่ยังไม่ทันได้พูด นางอมรัตน์พูดจบก่อน แต่ประธานในที่ประชุม ได้ตำหนิว่าไม่ควรพูดจาเสียดสี

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img