“อนุทิน”มั่นใจสิ้น ต.ค.ฉีดซิโนแวคเข็มแรกหมด 12 ล้านโดส ยืนยันการที่ผู้ปกครองอยากให้เด็กฉีดเชื้อตายยังทำไม่ได้เหตุผู้ผลิตยังไม่ได้ปรับทะเบียนการใช้วัคซีนกับอย.
เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้สัมภาษณ์ถึงตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ว่า ตามที่ประเทศไทยได้สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค จำนวน 12 ล้านโดส ตามกำหนดจะส่งมาในเดือนกันยายน 2564 จำนวน 9 ล้านโดส เดือนตุลาคม อีก 3 ล้านโดส ซึ่งประเทศไทยได้ปรับสูตรฉีดวัคซีนเป็นสูตร SA คือ เข็มที่ 1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า เพื่อร่นเวลาการรับเข็มที่ 2 ให้เร็วขึ้น ภายใน 3-4 สัปดาห์ ดังนั้น คาดว่าสิ้นเดือนตุลาคมนี้ จะต้องฉีดซิโนแวคเป็นเข็มที่ 1 ให้หมด และอีกไม่เกิน 8 สัปดาห์ ก็จะได้รับเข็มที่ 2 ครบถ้วน และประชาชนที่ฉีดสูตรนี้ภูมิต้านทานที่ได้รับจะเท่ากับการฉีดเแอสตร้าฯ 2 เข็มทั้งนี้ภาพรวม ประเทศไทยจะฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงอย่างช้าที่สุดคือ ต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งย้ำว่าวัคซีนมีเพียงพอ สธ.จัดหามาเรียบร้อย ขณะนี้เหลือเพียงวิธีกระจายและฉีดวัคซีน
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีผู้ป่วยหนักที่ต้องเร่งรักษา และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเขียว สามารถเข้าระบบแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) ได้ ซึ่งจะทำให้มีจำนวนแพทย์ เครื่องมือที่ใช้ดูแลผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และได้เริ่มทยอยปิดโรงพยาบาล (รพ.) สนาม เช่น รพ.บุษราคัม อะไรที่สามารถนำไปใช้ต่อได้ ก็จะส่งไปใช้ที่สถานพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อบริหารของที่ได้ลงทุนไว้ เราไม่ได้จะใช้ครั้งเดียวแต่จะใช้ให้คุ้มค่าที่สุด
ส่วนข้อกังวลของอาจารย์แพทย์ในการฉีดวัคซีนชนิด mRNA ให้กับเด็กที่มีอายุ 12-17 ปี นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างจะต้องมีการสรุปในทางการแพทย์ สธ.ก็มีทีมการแพทย์อยู่ ในที่ประชุมอีโอซี ก็ไม่ได้มีแค่แพทย์ในสังกัด สธ. แต่มีแพทย์ คณบดีคณะแพทย์แพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการวิชาการ ฯลฯ ดังนั้น จะต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วจึงนำมาใช้กับประชาชนได้ ส่วนกรณีผู้ปกครองที่อยากให้ลูกฉีดเป็นชนิดเชื้อตาย ขณะนี้ ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิต ยังไม่ได้ปรับทะเบียนการใช้วัคซีนกับอย. แม้แต่ในประเทศเขาเองก็ยังไม่ได้ปรับเช่นกัน ดังนั้น การฉีดวัคซีนที่นอกเหนือจากการจดทะเบียนจะต้องไปยื่นเอกสารขออนุญาตเพิ่มเติมจาก อย.อย่างไรก็ตามเรื่องการเปิดประเทศนั้น ยังไม่ได้หารือกับรม.ท่องเที่ยวฯ แต่ทุกอย่างก็ต้องผ่านความเห็นชอบจากศบค.ก่อน
ส่วนการฉีดวัคซีนใต้ผิวหนังที่ได้เริ่มฉีดใน จ.ภูเก็ต หาก รพ.อื่นจะทดลองกับประชาชนได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแนวทางทางการแพทย์ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์