วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightกทม.ฉีดวัคซีนนร.กลุ่มเสี่ยง กว่า 2,000 รายไม่พบ’’ผลข้างเคียง’’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

กทม.ฉีดวัคซีนนร.กลุ่มเสี่ยง กว่า 2,000 รายไม่พบ’’ผลข้างเคียง’’

“รองโฆษกรัฐบาล” เผย กทม. ฉีดวัคซีนนร. กลุ่มเสี่ยง กว่า 2,000  ราย ไม่พบผลข้างเคียง  ย้ำวัคซีนที่รัฐบาลนำมาฉีดมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย  

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ที่มีอายุ 12-18 ปี ทุกคน ทุกสังกัด จำนวนกว่า  4.5 ล้านคน เริ่มฉีดวัคซีนเดือนตุลาคม 2564  ผ่านสถาบันการศึกษา ครอบคลุม ทั้ง กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงเรียนพระปริยัติธรรม โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความปลอดภัย และเตรียมความพร้อมรองรับกรณีที่อาจจะมีการเปิดภาคเรียน  

ขณะที่ กทม. รายงานการฉีดวัคซีนโควิด-19 (ไฟเซอร์) ที่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช มีนักเรียนและเยาวชน กลุ่มเสี่ยง 7 โรค ในกทม. ได้รับ 1 เข็มจำนวน  1,681  รายและได้รับครบ 2 เข็ม  จำนวน 614  ราย ไม่พบการรายงานผลข้างเคียง 

อย่างไรก็ตามทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้มีการสำรวจจำนวนนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครองยินยอมฉีด และไม่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์  ซึ่งจะทำการฉีดวัคซีนภายในพื้นที่สถาบันการศึกษาในจังหวัดนั้น ๆ  ขณะเดียวกันสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นผู้รวบรวม จำนวนนักเรียนที่พักอาศัยในจังหวัดที่ไม่ได้เป็นที่ตั้งของสถานศึกษาต้นสังกัด เพี่อเสนอต่อกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้จัดสรรยอดวัคซีนเพิ่มรายจังหวัด และให้สาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้กำหนดวัน เวลา และสถานที่สำหรับการฉีดวัคซีนของนักเรียนกลุ่มดังกล่าวด้วย ในส่วนกรุงเทพมหานคร  รายงานมีเด็กนักเรียนอายุ 12-18 ที่เป็น 7โรคกลุ่มเสี่ยงในกรุงเทพมหานคร และเด็กนักเรียนในสังกัดกทม. และสังกัดอื่นๆ มีการลงทะเบียนแจ้งความประสงค์รับการฉีดวัคซีนกว่า 5,000 คน ฉีดวัคซีนแล้วประมาณ   2,000  คน ยังคงเหลืออีก 3,000 คน ซึ่งกทม.ก็จะได้เร่งดำเนินการให้สอดคล้องกับการจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุขต่อไป  

น.ส.รัชดา ยังกล่าวว่า จากการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน และเยาวชนใน กทม. กว่า 2,000 รายที่ผ่านมา  ยังไม่พบการรายงานผลข้างเคียง  ยืนยันว่าวัคซีนที่รัฐบาลนำมาให้บริการแก่เด็กนักเรียนและเยาวชน ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป รวมทั้งผู้ใหญ่ ผ่านการรับรองจากสำนักงานองค์การอาหารและยา องค์การอนามัยโลก และมีหลักฐานทางวิชาการที่บ่งชี้ว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัย  จึงขอให้ความมั่นใจแก่น้องๆ นักเรียน เยาวชน อย่างไรก็ตาม การให้ฉีดวัคซีนโควิด-19  ให้แก่ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ปกครองก่อนด้วย.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img