“อนุดิษฐ์”lส.ส.กทม.เพื่อไทย ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึง นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบ ทีโออาร์ของกองทัพอากาศ
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย เขียนจดหมายเปิดผนึก เรียน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณี โครงการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ โดยระบุว่า
การเปลี่ยนแปลง TOR ในโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ จากเดิมที่ให้มีการจ้างงานในประเทศทั้งหมดหรือบางส่วนโดยใช้อุตสาหกรรมในประเทศ ไปเป็นการซื้อจากต่างประเทศ 100% นั้น ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต้องสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วนว่า TOR ใหม่ที่ระบุให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีนั้นมีอยู่จริง และเกิดประโยชน์กับประเทศจริงตามเป้าหมายหรือไม่ หรือเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์โครงการ เพื่อนำไปสู่การจัดหาจากต่างชาติโดยปราศจากการจ้างงานในประเทศ เพื่อผลประโยชน์แอบแฝงอื่นๆ ที่เด็กอมมือก็รู้ว่าคืออะไร
ส่วนกรณีที่กองทัพอากาศอ้างว่าอุตสาหกรรมไทยไม่มีขีดความสามารถอยู่จริงนั้น ผมขอให้นายกรัฐมนตรีเข้าไปตรวจสอบอย่างจริงจัง ด้วยการให้หน่วยงานที่เป็นกลาง พร้อมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าร่วมตรวจสอบเพื่อเปิดโปงความจริงว่าอุตสาหกรรมไทยนั้นมีความสามารถในการตอบสนองความต้องการของกองทัพหรือไม่ เพราะหากไม่มีความสามารถอยู่จริง เรื่องนี้จะต้องรีบแก้ไขโดยทันที เพราะเท่ากับว่านโยบายที่รัฐบาลประกาศออกมาให้พึ่งพาตนเองนั้น ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
แต่หากอุตสาหกรรมไทยมีศักยภาพและมีความพร้อม แต่ถูกข้าราชการและนักการเมืองชั่วบิดเบือนข้อมูลจากความจริง เพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้อง ท่านต้องมีมาตรการจัดการกับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด เพราะหากปล่อยไว้จะเป็นการทำลายอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยทิ้งทั้งหมด และแปลความได้ว่ารัฐบาลไม่ได้มีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ เพื่อการพึ่งพาตนเอง ส่งเสริมให้คนไทยมีงานทำ และนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศอย่างยั่งยืน ตามที่ท่านกล่าวอ้างแต่อย่างใด
ผมและ ส.ส.อีกหลายท่าน ร่วมกันตรวจสอบการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ ด้วยความเป็นห่วงประเทศไทย และไม่มีเจตนาทางการเมืองหรือเจตนาอื่นใดแอบแฝง เพราะไม่ว่าจะเป็น ส.ส.จากฝ่ายค้านหรือรัฐบาลต่างเห็นตรงกันว่า หากรัฐบาลปล่อยปละละเลยให้กระทรวงกลาโหมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปโดยไม่ตรวจสอบอย่างจริงจัง ผลที่ตามมาย่อมทำให้กลุ่มข้าราชการชั่วได้ใจ และเป็นการทำลายอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะหากอุตสาหกรรมไทยไม่ได้รับการส่งเสริมและไม่สามารถอยู่รอดได้ สุดท้ายก็ต้องเลิกกิจการและล้มหายตายจากไป เท่ากับเป็นการเปิดทางให้ข้าราชการชั่วสามารถหากินกันกับงบประมาณจัดซื้ออาวุธของกองทัพ ผ่านระบบ “นายหน้าค้าอาวุธ” ได้สะดวกสบายตามที่ตนเองต้องการ
ผมอภิปรายเรื่องนี้ไปแล้ว และอยู่ระหว่างการสรุปรายงานของคณะกรรมาธิการ เมื่อเสร็จเรียบร้อยจะนำส่งรายงานดังกล่าวให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อไป หากท่านต้องการให้ผมไปชี้แจงข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมว่าเขาฉ้อฉลกันอย่างไร ผมยินดีให้ความร่วมมือในทุกกรณี กรณีนี้ควรเชิญผู้รับผิดชอบของกองทัพอากาศมาชี้แจงพร้อมกับผมด้วย จะได้รู้ว่าใครโกหก แต่ที่แน่ๆ ถ้ากระทรวงกลาโหมยังปล่อยปละละเลยไม่ตรวจสอบเรื่องนี้โดยละเอียด คงไม่พ้นคำครหาว่ามีส่วนร่วมรู้เห็นหรืออาจเป็นผู้บงการตัวจริงก็เป็นได้
จึงเรียนมาเพื่อพิจารณา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตสายไหม พรรคเพื่อไทย
