“กษิต” ชี้ “หาก “ประยุทธ์”ควรเคารพเจตนารมณ์ของรธน.ที่ให้นายกฯอยู่ 8 ปี ลั่นถ้ายังไม่รู้จักพอ อยู่ในอำนาจต่อ ยิ่งเกิดวิกฤติขัดแย้ง
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.64 นายกษิต ภิรมณ์ อดีตรมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เขียนข้อความแสดงความเห็น กรณีปัญหาการตีความกฎหมายเรื่อง อายุการดำรงตำแหน่งนายกฯ โดย ระบุว่า
การเมืองไทย มักมีประเด็นทางกฏหมายให้ถกเถียงกันอยู่เสมออาจจะเพราะรัฐธรรมนูญเขียนใหม่กันเป็นประจำ มีเพิ่มเติมข้อกำหนดขึ้นเรื่อยๆ การจะไปหาอ้างอิงเหตุการณ์เก่าๆ มาใช้เป็นบรรทัดฐานก็ไม่มี เลยต้องไปพึ่ง สำนักงานกฤษฎีกา และศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความกันบ่อยๆ
ล่าสุดก็เป็นเรื่อง ข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 158 ที่ว่า นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 8 ปี ไม่ว่าจะต่อเนื่องหรือไม่ก็ตามปัญหาก็เลยเกิดขึ้นว่า แล้วจะให้นับ 8 ปีของ นายกฯ ประยุทธ์กันตอนไหน? เพราะว่ามีการดำรงตำแหน่งนายกฯ มาตั้งแต่ก่อนปี 60
1.จะนับเหมารวมแต่รัฐประหาร 57 ก็ครบปี 65
2.หากนับเริ่มปีรัฐธรรมนูญประกาศใช้ 60 ก็จะครบปี 68
3.แต่ถ้านับปีเลือกตั้ง 62 ก็ไปครบตอนปี 70
เรื่องนี้เป็นประเด็นก็เพราะ ผลในแต่ละทางนั้นส่งผลต่อทิศทางการเมืองของพรรคต่างๆ อย่างมาก โดยเฉพาะในเวลาที่ความสามัคคีในพรรคแกนนำรัฐบาลเริ่มสั่นคลอน เกิดความขัดแย้งระหว่างเลขาธิการพรรค พปชร กับตัวนายกฯ ประยุทธ์
ในเรื่องการตีความทางกฎหมายก็คงต้องว่ากันไปแล้วแต่นักกฎหมายแต่หากดูที่เจตนารมย์ในการระบุเพดานดำรงตำแหน่ง 8 ปีไว้ ก็เพื่อไม่ให้มีใครนั่งเก้าอี้นายกฯ จนรากงอกนั่นเอง
และต้องไม่ลืมว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ นายกฯ ประยุทธ์ เป็นคนทำคลอดออกมากับมือ จึงยิ่งสมควรที่จะเคารพเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ โดยสามารถเลือกที่จะนับกันตั้งแต่วันแรกที่ก้าวสู่ตำแหน่งได้ด้วยตนเอง และควรพร้อมจะวางมือ ก้าวลงจากเก้าอี้เมื่อครบเวลา 8 ปี
แต่หาก นายกฯประยุทธ์ ยังไม่รู้จักพอ ยังอยากจะอยู่ในอำนาจต่อไปให้นานที่สุด โดยดึงดันให้มีการตีความ ซึ่งแม้ผลตัดสินจะออกมาว่า สามารถดำรงตำแหน่งได้จนถึงปี 2570 ประชาชนก็คงคลางแคลงใจว่ามีการใช้กำลังภายในกันหรือไม่? และนั่นจะยิ่งทำให้วิกฤติความขัดแย้งทางการเมืองขยายตัวขึ้นอีกมากมาย
รัฐบุรุษทางการเมืองที่ได้รับการยกย่องส่วนมากมีคุณสมบัติร่วมกันข้อหนึ่ง นั่นคือการไม่ยึดติดในอำนาจ และเลือกเดินลงจากเวทีอย่างสง่างาม
ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่า นายกฯ ประยุทธ์จะเลือกเดินลงจากเวทีเองอย่างมีเกียรติ หรือว่าจะเกาะติดเก้าอี้ไปเรื่อยๆ รอจนมีคนมาลากลงไปในที่สุด