“องอาจ” แนะ ศบค. เร่งรณรงค์ครั้งใหญ่การ์ดอย่าตกอย่างจริงจัง หลังพบคลัสเตอร์งานศพ งานสังสรรค์ จัดปาร์ตี้มั่วสุมมากขึ้น หวั่นระบาดซ้ำกระทบเปิดประเทศ
วันที่ 11 ต.ค.64 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ว่า จากรายงานของ ศบค. พบว่า สถานการณ์โควิด-19 ของไทย อยู่ในสภาวะทรงตัวคือมีผู้ติดเชื้อประมาณ 10,000 ราย ซึ่งอยู่ในสภาวะที่ ศบค. คาดว่าจะควบคุมให้ทรงตัว หรือลดลงได้เรื่อยๆ จึงตัดสินใจคลายล็อคข้อจำกัดต่างๆ ให้สามารถใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติเพื่อพยุงให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ แต่หลังจากคลายล็อคได้ไม่นาน มีประชาชนบางส่วนเริ่มการ์ดตกมาขึ้น อาจเป็นเพราะมั่นใจว่าได้ฉีดวัคซีนแล้ว และเชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง จึงพบว่าเริ่มมีการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์จากงานศพ คลัสเตอร์จากงานสังสรรค์ คลัสเตอร์จากการจัดงานตามพื้นที่ต่างๆ ที่มีคนมารวมตัวกันจำนวนมาก
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันก็พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ทำผิดกฎหมายจัดปาร์ตี้มั่วสุมตามสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่คนเข้าร่วมปาร์ตี้มั่วสุมจากหลักสิบ พุ่งขึ้นเป็นหลักหลายร้อยคน และอาจจะมีการจัดปาร์ตี้มั่วสุมลักษณะนี้อีกมาก แต่รอดพ้นการจับกุมของตำรวจ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่นำไปสู่การแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากยอดผู้ติดเชื้อจากการตรวจ ATK เชิงรุกในรอบ 10 วันที่ผ่านมา ก็เพิ่มจากหลักพันคนเป็นหลักหมื่นคน ถึงแม้ผู้ตรวจ ATK พบว่าติดเชื้อจะไม่ได้หมายความว่าจะติดเชื้อทุกคนจนกว่าจะตรวจ PCR อีกครั้งก็ตาม ทำให้เห็นว่าการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ๆ และการใช้ชีวิตด้วยความประมาทฝ่าฝืนกฎหมาย มีโอกาสที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นอีก ซึ่ง ศบค. ก็ได้ออกมาขอความร่วมมือแจ้งเตือนประชาชนอยู่ตลอดให้การ์ดอย่าตก
“การแจ้งเตือนขอความร่วมมืออย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงขอเสนอแนะ ศบค. ควรจัดการรณรงค์ครั้งใหญ่ให้การ์ดอย่าตก เพื่อประชาชนจะได้ตระหนักถึงปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่ในกรอบของการคลายล็อคเปิดประเทศอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ต่อไป”นายองอาจ กล่าว