“โจ้-ยุทธพงศ์”ชี้พบพิรุธเพียบ ในการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ ส่ออาจจะมีการจัดซื้อล็อกสเปก ฮั้วประมูลไม่โปร่งใส
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมประเทศไทย ว่า ไม่ได้รับการจัดการดูแลอย่างเป็นระบบ เพราะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจแล้วยกเลิกแผนจัดการน้ำทั้งระบบอย่างบูรณาการ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และใช้อำนาจตามมาตรา 44 ที่ 46/2560 จัดตั้ง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) อ้างเพื่อบูรณาการระบบน้ำทั้งหมด และยังออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 166/2562 มอบหมายและมอบอำนาจให้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการดำเนินการที่ส่อว่าอาจจะมีการจัดซื้อมีล็อกสเปก ฮั้วประมูล ไม่โปร่งใส
โดยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2564 ครม. มีมติอนุมัติงบกลาง 3.2 พันล้านบาท เพื่อบริหารจัดการน้ำ – แก้ภัยแล้ง และเตรียมเครื่องจักรเครื่องสูบน้ำในฤดูฝน โดยกระจายไปตามกรมกองต่างๆ ถ้าหน่วยงานใดมีแผนเรื่องน้ำ จะต้องผ่าน สทนช. ภายใต้พลเอกประวิตร ขณะที่งบกลางอนุมัติโดยพลเอกประยุทธ์
จากการตรวจสอบกรณีรายการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ พบการจัดแบ่งซอยซื้อ ไม่ประกวดราคา e-bidding แต่ใช้การคัดเลือกร้านค้า-บริษัทโดยตรง ยกตัวอย่างอำนาจผู้อำนวยการศูนย์ต่างๆ จัดซื้อได้ไม่เกิน 25 ล้านบาท จึงเกิดเรื่องพิศดาร แบ่งซื้อจัดจ้าง แต่ละศูนย์จัดซื้อเครื่องสูบน้ำสเปกเดียวกัน ราคาเท่ากัน
อาทิ ปั้มขนาด 42 นิ้ว ราคาชุดละ 21.8 ล้านบาทเท่ากันทั้งหมด ศูนย์ฯ นนทบุรี สั่งซื้อ 1 เครื่อง , เชียงใหม่ 2 เครื่อง , พิษณุโลก 2 เครื่อง , ขอนแก่น 2 เครื่อง , นครราชสีมา 2 เครื่อง , พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง , สงขลา 2 เครื่อง รวม 13 เครื่อง มูลค่า 284.5 ล้าน
อีกทั้งที่มาของราคากลาง สืบเทียบจากเอกชน 3 บริษัท แต่สุดท้ายมีเพียงเอกชนรายเดียวที่ขายได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นความไม่โปร่งใส หรือล็อกสเปกหรือไม่
“มีข้อสงสัยว่า เมื่อซื้อของชนิดเดียวกัน ทำไมไม่รวมกันแล้วใช้วิธี e-bidding เพื่อให้เกิดการแข่งขันทางราคาที่โปร่งใส อีกทั้งของที่ซื้อมาขณะนี้อยู่ที่ไหน มีประโยชน์ใช้การได้หรือไม่ ขณะที่ชาวบ้านภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสานและภาคใต้ ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วม ลำบากยากแค้น รัฐบาลทำเพียงการแจกถุงยังชีพ” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าว