พรรคเล็กหนีตาย! ประชาธรรมไทยยุบ รอควบรวมพปชร. “พิเชษฐ” รับกติกาใหม่บัตรเลือกตั้ง 2 ใบอยู่ลำบาก ขณะที่ไทรักธรรมเปลี่ยนกลยุทธไม่ยุบพรรค แต่หนีลงสมัครส.ส.เขต
วันที่ 21 ต.ค.64 นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธรรมไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเล็กจะพิจารณาควบรวมพรรคใหญ่ตามรอยพรรคประชาชนปฏิรูป ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยุบพรรคประชาชนปฏิรูปของตัวเอง เพื่อไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ขัดกฎหมายว่า ขณะนี้พรรคประชาธรรมไทย มีมติยุบพรรคไปเรียบร้อยแล้ว และกตต.อนุมัติการยุบพรรคเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2564 อยู่ระหว่างการการรอประกาศเรื่องการยุบพรรคอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษาจะมีผลสมบูรณ์ จากนั้นจะมีเวลา 60วัน ไปอยู่พรรคใหม่ โดยจะย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ได้พูดคุยตกลงกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว ทั้งพล.อ.ประวิตรและร.อ.ธรรมนัสบอกว่า ยินดีต้อนรับตนเข้าพรรคพลังประชารัฐในฐานะพรรคเล็กที่เคยร่วมรัฐบาลกันมา จะไม่ทิ้งกัน ถ้าจะยุบพรรคและมาควบรวมอยู่ด้วยกันก็ยินดี
นายพิเชษฐ กล่าวว่า สาเหตุที่ยุบพรรคประชาธรรมไทยมี 3เหตุผลคือ 1.แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงกติกาเลือกตั้งที่ไปใช้บัตร 2ใบ ทำให้พรรคเล็กไปต่อไม่ได้ 2.นโยบายพรรคประชาธรรมไทยไม่สามารถขับเคลื่อนได้ในหลายเรื่อง จึงต้องอาศัยพรรคใหญ่ขับเคลื่อน 3.กรรมการบริหารพรรคหลายคนลาออก เพราะต้องการไปประกอบธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ที่มีข้อห้ามการเป็นกรรมการบริหารพรรค ซึ่งกกต.ได้เรียกกรรมการบริหารพรรคทุกคนไปชี้แจงเรียบร้อยแล้วถึงเหตุผลการลาออกว่า ไม่ได้มีการบีบบังคับ เป็นการลาออกด้วยความสมัครใจ ยอมรับกติกาบัตรเลือกตั้ง 2ใบ ทำให้พรรคเล็กอยู่ลำบาก หลายพรรคต้องปรับตัว ถ้าไม่ยุบรวมกับพรรคใหญ่ ก็ต้องหนีไปลงสมัครส.ส.เขตแทน เพราะโอกาสยากมากที่พรรคเล็กได้จะคะแนนบัญชีรายชื่อ 3แสนกว่าคะแนนถึงจะมีโอกาสได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1คน เท่าที่ทราบขณะนี้มีพรรคเล็ก 3พรรค ที่ยุบพรรคไปแล้วได้แก่ 1.พรรคประชาชนปฏิรูป 2.พรรคประชานิยมของพล.ต.อ.ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ยุบพรรคไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐก่อนหน้านี้ และ3.พรรคประชาธรรมไทย ส่วนจะมีพรรคอื่นๆยุบไปรวมกับพรรคใหญ่อีกหรือไม่ ยังไม่ทราบเพราะไม่ได้คุยกัน
นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม กล่าวว่า พรรคไทรักธรรมยังไม่ยุบพรรคไปรวมพรรคใหญ่ แต่จะเปลี่ยนกลยุทธ์ต่อสู้คือ ตนจะไปลงสมัครส.ส.เขต ที่จ.สระบุรีแทน เพราะมีโอกาสได้เป็นส.ส.มากกว่าส.ส.บัญชีรายชื่อที่ต้องได้คะแนนขั้นต่ำ 3.5แสนคะแนน ขณะนี้ตนลงพื้นที่หาเสียงส.ส.เขตที่จ.สระบุรี มาปีกว่าแล้ว คำนวณดูแล้วรอบที่แล้ว พื้นที่นี้คนชนะเลือกตั้งได้คะแนน 2หมื่นกว่าคะแนน ดังนั้นการลงส.ส.เขตมีโอกาสได้เป็นส.ส.มากกว่า เพราะไม่ต้องหาเสียงทั้งประเทศ พื้นที่หาเสียงแคบลง การเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคไทรักธรรมจะส่งส.ส.จำนวนจำกัด คงส่งส.ส.เขตแค่ 10 เขต และส.ส,บัญชีรายชื่อแค่ 2-3คนเท่านั้น