มติฝ่ายค้านไม่แก้ ม.112 “ชลน่าน” โยนเป็นเรื่องส่วนตัว ลั่นพท.ขอเป็นตัวกลางรับเรื่องเข้าสู่กระบวนการของสภา
วันที่ 3 พ.ย. 64 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ฝ่ายค้านยึดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยยึดประโยชน์สูงสุดของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก ไม่ได้มุ่งที่จะล้มรัฐบาล แต่สิ่งไหนที่รัฐบาลทำแล้วไม่ได้เป็นประโยชน์กับประชาชน เราจะดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้น โดยคำนึงถึงสถานการณ์บ้านเมืองเป็นหลัก แต่ขณะนี้รัฐบาลกำลังเผชิญวิกฤตด้านเศรษฐกิจ การสาธารณสุข วิกฤตศรัทธาด้านการเมือง การละเมิดสิทธิ และเสรีภาพ รวมถึงเสถียรภาพรัฐบาลที่ไม่มีความมั่นคง ซึ่งการทำงานช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงใกล้หมดอายุรัฐบาล
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้การทำงานของพรรคร่วมฝ่านค้าน เราจะทำงานภาพใหญ่ 3 ระดับ คือ 1.ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งจะกำหนดยุทธศาสตร์ทิศทางทุกมิติ 2.พรรคร่วมฝ่ายค้านมีคณะกรรมการประสานในสภา ทำหน้าที่เป็นผู้ขับเคลื่อนตรวจสอบตามกลไกรัฐสภา และ 3.คณะกรรมการประสานงานนอกสภา โดยจะเพิ่มความเข้มข้นการเข้าหาพี่น้องประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาที่แท้จริง แนะนำไปแก้ปัญหาในสภา ซึ่งเชื่อว่จะาเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เราจะเป็นผู้อาสารับเรื่องทั้งทางตรง ทางอ้อม ให้เป็นไปตามกลไกรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกระทู้ การเสนอญัตติในที่ประชุมสภา ส่วนวิธีการแก้ไขระบบรัฐสภาจะใช้เสียงข้างมาก และการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงที่เป็นปัญหาต่อประชาชน โดยจะทำให้เร็วที่สุด
เมื่อถามถึงความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้านในประเด็นการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม. 112 นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราเห็นพ้องกันว่า การบังคับใช้กฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ทำให้เกิดนักโทษทางความคิดจากความเห็นต่าง พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่อยากให้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น หากเกิดขึ้นเขาต้องได้รับการดูแลช่วยเหลือ เราในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติจะใช้เวทีสภาแก้ปัญหา จึงจะรับทุกความเห็นเข้าสู่สภา ส่วนจะแก้อย่างไรขึ้นอยู่กับประเด็นที่รับมา และกลไกของรัฐสภาที่จะดำเนินการ ส่วนจะมีการยกร่างนำเสนอเองหรือไม่นั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านจะไม่ดำเนินการในส่วนนี้ ส่วนสมาชิกท่านใดจะเสนอก็เป็นสิทธิเสรีภาพตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
“เราจะไม่ปล่อยให้เกิดการแตกแยกแล้วไปแก้ปัญหานอกสภา เพราะเป็นห่วงว่าหากปล่อยให้ปะทะกัน การแก้ปัญหานอกระบบ นอกสภาจะเกิดขึ้น ขอเรียกร้องพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล หยุดเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองในการที่จะกล่าวหา หรือใส่ร้ายพวกเราฝ่ายประชาธิปไตย เพียงเพื่อจะกลบเกลื่อนปิดบังในสิ่งที่รัฐบาลประสบปัญหาอยู่ เพราะการที่ท่านทำแบบนี้จะทำให้เกิดความแตกแยกขัดแย้ง พรรคเพื่อไทยจะไม่เป็นตัวตั้งตัวตีในการล่าชื่อหรือผลักดันแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 แต่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงานนำปัญหาเข้ามาคุยในสภาเท่านั้น แต่ก็ไม่ตัดสิทธิว่าพรรคไหนหรือสมาชิกท่านใดจะนำเสนอขอแก้ไข เพราะไม่อยากให้นำปัญหาไปแก้กันบนถนนนอกสภา” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยหยิบยกประเด็นการแก้ไข ม.112 เพื่อเรียกเรตติ้งจากคนรุ่นใหม่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอให้ฝ่ายการเมืองระมัดระวังอย่าได้ใช้กฎหมายที่หมิ่นเหม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพราะเป็นสิ่งที่อันตรายจะทำให้กฎหมายบิดเบี้ยวขาดความศักดิ์สิทธิ์ กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสถาบัน ถ้าใช้อย่างพร่ำเพรื่อจะส่งผลกระทบทั้ง 2 ด้าน
